AB Testing คือหนึ่งในขั้นตอนสำคัญมากทั้งในด้านการทำการตลาดที่นักการตลาดจะคุ้นเคยกันดีกับการทำ Ads เพื่อวัดผลหาโฆษณาที่ดีที่สุด ซึ่งในการทำเว็บไซต์ก็เช่นกันเพราะการทำ A/B Testing ก็เพื่อหาคำตอบว่า UI แบบไหนที่ลูกค้าชื่นชอบและเพิ่ม Conversion rate ให้กับเว็บไซต์ได้มากที่สุด วิธีในการทดสอบหากลยุทธ์ที่ดีที่สุดเพื่อตัดสินใจใช้งานและไม่อยากคาดเดา การทดสอบด้วย A/B Testing จะช่วยเข้ามาทดสอบเปรียบเทียบเพื่อเรียนรู้ว่าลูกค้าของคุณนั้นชอบอะไร เราสามารถทดสอบได้หลากหลายอย่างเช่น ทดสอบการจัดวางหน้าเว็บไซต์ ทดสอบการใช้สีปุ่มกด ทดสอบว่าหัวข้ออีเมลแบบไหนดีกว่ากัน ไปจนถึงการทดสอบว่ารูปภาพแบบไหนที่ลูกค้าชื่นชอบก็สามารถทำได้ด้วย การทำ AB Testing
Joe KevensMy top tip for A/B Testing is only to use it strategically
ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นทำ A/B Testing ได้นั้น เราจะต้องทำอย่างมีกระบวนการ มีการคิดแล้วว่าในขั้นตอนการทดลองสุ่มแสดงเวอร์ชั่นต่างๆ จะมีการใช้ตัวแปรอะไรบ้าง ให้กับกลุ่มลูกค้าหรือผู้ที่เข้ามายังเว็บไซต์ของคุณในช่วงเวลาเดียวกันเพื่อเก็บรวบรวมตัวเลขสถิติต่างๆ เพื่อนำมาวัดผลในการทำงานต่อได้
ทำความรู้จัก AB Testing คือเครื่องมืออะไร
เพราะทำเว็บไซต์ที่ดีไม่ควรจบแค่เว็บไซต์ถูกนำขึ้นออนไลน์ เพราะเราอาจจะไม่รู้ว่า UI แบบไหนที่ทำให้ลูกค้าถูกใจจนสั่งซื้อสินค้าหรือบริการของเรา ทำให้กระบวนการทำ A/B Testing คือสิ่งที่ทำให้เราสามารถหาคำตอบที่สามารถนำมาวัดผลได้ว่าการออกแบบเว็บไซต์วิธีไหนกันแน่ที่ทำให้ Conversion rate มีตัวเลขที่สูงที่สุด เพื่อให้เราสามารถปรับแก้ไขเว็บไซต์ให้ดีขึ้นอย่างถูกทาง
A/B Testing คือเครื่องมือลดการคาดเดา ว่าตัวแปรไหนดีกว่ากัน
การทดสอบด้วย AB Testing จะช่วยลดการเดาสุ่มในการทำการตลาดและการปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ทำให้ผู้ที่ต้องการปรับปรุงเว็บไซต์สามารถตัดสินใจได้ด้วยข้อมูลทดสอบ ในการทดสอบนั้นจะประกอบไปด้วยข้อมูล A และข้อมูล B โดยที่ข้อมูล A หมายถึง “ตัวควบคุม” เป็นตัวแปรในการทดสอบเดิม และข้อมูล B หมายถึง “ตัวแปร” เป็นเวอร์ชั่นใหม่ของการทดสอบเดิม หลังจากที่จบการทดสอบแล้วคุณจะพบกับตัวเลขที่แสดงชัดเจนว่าตัวแปร A หรือ B เป็นผู้ชนะ และเหมาะที่จะหยิบมาใช้งานบนเว็บไซต์ของคุณ เป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยเพิ่ม ROI ให้กับธุรกิจ
จะปรับแก้ไขเว็บไซต์ให้ดีขึ้น จะต้องมีผลวิเคราะห์ที่ถูกต้องและอ้างอิงได้
แล้ววิธีที่เราจะหาตัวเลขหรือผลวิเคราะห์เพื่อนำตัวเลขมาปรับแก้ให้ได้ถูกทางคือการทำ A/B Testing สำหรับตัวแปรที่เราจะนำมาทำ A/B Testing ได้นั้นเรียกได้ว่าจะนำองค์ประกอบไหนมาทดสอบก็ได้ เช่น
- ทดสอบสีของปุ่มกดว่าลูกค้าชอบสีปุ่มสีไหนมากที่สุด
- ทดสอบตำแหน่งของการวางปุ่ม
- ทดสอบว่ารูปภาพแบบไหนส่งผลต่อการซื้อมากกว่ากัน
- ทดสอบข้อความหรือ UX Writing ว่าข้อความไหนกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อ
เราจะใช้การสุ่มแสดงผลการวางองค์ประกอบเพื่อทดสอบตัวแปรในแต่ละเวอร์ชั่นให้กับผู้ใช้งานในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ใกล้เคียงกันและรวบรวมข้อมูลในแบบข้อมูลเชิงปริมาณเพื่อนำไปวิเคราะห์และนำไปปรับแก้ไขเว็บไซต์ต่อไป
สำหรับตัวชีวัดในการเลือกตัวแปรที่เป็น “ผู้ชนะ” จะมีความแตกต่างกันในแต่ละธุรกิจ เช่น ถ้าคุณกำลังทดสอบกับเว็บไซต์ e-commerce สิ่งที่ต้องวัดผลควรจะเป็นยอดขายสินค้า ถ้าคุณกำลังทำเว็บไซต์ให้กับธุรกิจ B2B ตัวแปรของผู้ชนะควรจะเป็นการได้มาซึ่ง Lead generation ที่มีคุณภาพ
การทดสอบด้วย A/B Testing จึงเป็นกระบวนการที่คุณจะเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้ใช้งานเพื่อนำมาเพิ่ม Conversion Rate Optimization (CRO) ได้ง่ายๆ เพราะในการทดสอบคุณจะได้ข้อมูลทั้งในเชิงของคุณภาพและเชิงปริมาณเพื่อให้เราสามารถเข้าใจถึงพฤติกรรมของลูกค้า เข้าใจสิ่งที่ลูกค้าของคุณกระทำกับเว็บไซต์ได้เพื่อลบจุดด้อยของเว็บไซต์ที่ลูกค้าไม่ชอบและเลือกนำเสนอสิ่งที่ลูกค้าของคุณชื่นชอบ
ทำไม A/B Testing จึงเป็นจุดเปลี่ยนให้กับธุรกิจของคุณ
หากคุณกำลังมีปัญหาและต้องการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำการตลาดและเว็บไซต์ของคุณ หากคุณกำลังต้องการ Lead generation ที่มากกว่าเดิม หากคุณเป็นเว็บไซต์ขายสินค้าที่ลูกค้าหยิบสินค้าใส่ตระกร้าแต่ไม่ชำระเงิน ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้เพียงแต่คุณต้องพบต้นต่อของปัญหาเสียก่อน
ความลับสู่ Conversion Rate ที่สูงขึ้น
ผู้ใช้งานเว็บไซต์มักจะมีเป้าหมายในการเข้าชมเว็บไซต์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของคุณ มีความต้องการซื้อสินค้าหรืออยากศึกษารายละเอียดของสินค้าเพิ่มเติม ไม่ว่า Goal ขั้นสุดท้ายของผู้ใช้งานจะเป็นอย่างไร ในระหว่างการใช้งานเว็บไซต์ผู้ใช้งานมักจะพบปัญหาบางอย่างที่ทำให้เส้นทางไปยังเป้าหมายเป็นไปยากขึ้น
ถ้าเรากำลังมองหาวิธีในการเพิ่ม Conversion rate ให้กับเว็บไซต์ของเราแบบเห็นผลทันที ให้ลองทำ A/B Testing เพื่อวัดผลหารูปแบบที่ดีที่สุดให้กับเว็บไซต์ได้ทันที โดยอาจจะเริ่มต้นที่การทดสอบปรับ ดีไซน์ของปุ่ม ตำแหน่งของปุ่ม เปลี่ยนรูปภาพ ปรับคำที่มีความน่าดึงดูด หรือแม้แต่การลองปรับ Layout ของเว็บไซต์
การที่ผู้ใช้งานไม่สามารถไปยังเป้าหมายจึงสร้างประสบการณ์การใช้งาน (User Experience) ที่ไม่ดี จึงกระทบต่อตัวเลข Conversion rate โดยตรง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผู้ใช้งานจะยังเป็นผู้ใช้งานต่อไป ไม่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นลูกค้าของคุณได้
ลด Bounce Rate ทำให้ผู้เยี่ยมชมไม่อยากออกไป
เมื่อลูกค้าเข้ามายัง Landing page ที่ใช้ในการปิดการขายที่เราออกแบบเอาไว้ หากพบว่าตัวเลข Bounce Rate มีตัวเลขที่สูงเกินไป วิธีง่ายที่สุดในการค้นหาปัญหาที่เกิดขึ้นคือการทดลองทำ A/B Testing เพื่อค้นหาปัญหาที่เกิดขึ้นและนำมาปรับแก้ไข เพราะตัวเลข Bounce Rate ที่สูงอาจะเกิดขึ้นได้จากหลายเหตุผลเช่น บนหน้าเว็บไซต์มีข้อมูลที่เยอะเกินจนผู้ใช้งานสับสน, ข้อมูลที่แสดงอยู่ไม่ตรงกับกับข้อมูลที่กำลังค้นหา, ค้นหาปุ่ม Call To Action ไม่เจอ
เพิ่ม ROI ให้กับธุรกิจ
นักการตลาดส่วนใหญ่โฟกัสที่ตัวเลข ROI (Return on Investment) เพราะค่าใช้จ่ายในการได้มาซึ่งผู้ใช้งานเว็บนั้นมีมูลค่า ทำให้การทำ A/B Testing ช่วยให้คุณได้ลูกค้าที่มาจากผู้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าที่สุด และที่สำคัญการทำ A/B Testing นั้นใช้งบประมาณในการทำไม่มาก แต่ได้ผลลัพท์ที่ชัดเจน การเปลี่ยนแปลงเพียงจุดเล็กๆ บนเว็บไซต์อาจช่วยสร้างตัวเลขที่สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจได้
ตามรอยปัญหาที่ลูกค้าเจอโดยไม่ต้องเสี่ยง
เพราะการทำ A/B Testing ทำให้เราได้ตัวเลขที่ชัดเจนที่วัดผลได้ว่าปัญหาเกิดขึ้นตรงจุดไหนคุณสามารถใช้ข้อมูลจาก Google Analytics และ Heat-Map Analysis นำมาประกอบเพื่อวิเคราะห์หาปัญหาที่ชัดเจนมากขึ้นได้ เราแนะนำให้ทดสอบการเปลี่ยนแปลงเป็นจุดๆ ที่ละน้อยๆ มากกว่าการปรับแก้ไขหน้าเว็บไซต์ทั้งหมด เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ การทำ A/B Testing จะช่วยให้ปรับแก้ไขจุดเล็กๆ ให้ส่งผลบวกทันที เช่น ทดสอบการเปลี่ยนชื่อสินค้าใหม่ ทดสอบการเปลี่ยนข้อความบนปุ่มกดสั่งซื้อ เพียงการทดสอบเล็กๆ น้อยๆ กับกลุ่มเป้าหมายจะทำให้คุณพบตัวเลขที่ซ่อนอยู่เพื่อนำมาปรับปรุงหน้าเว็บไซต์ของคุณต่อไป
เชื่อหรือไม่ว่าจากที่ทีมของเราเคยทดสอบ A/B Testing เพียงแค่การใส่หรือไม่ใส่ข้อมูลอธิบายสินค้า ก็พบว่าตัวแปรที่ใส่ข้อมูลสินค้าที่เพิ่มขึ้น มีตัวเลข Conversion Rate ที่สูงขึ้นได้เพียงแค่การปรับปรุงจุดเล็กๆ แต่ส่งผลบวกต่อธุรกิจเป็นอย่างมาก
ค้นหา CTA ที่ดีที่สุด
เราจะไม่รู้เลยว่าปุ่ม Call To Action แบบไหนที่ลูกค้าชอบมากที่สุด ทำให้การการทดสอบด้วย A/B Testing เข้ามามีบทบาทสำคัญเพราะการปรับ ดีไซน์ สี คำ ขนาด ตำแหน่ง เพียงการปรับแก้ไขเล็กๆ ก็สามารถสร้างตัวเลข Conversion rate ที่สูงขึ้นได้
เพิ่มประสิทธิภาพให้ Landing page
หลายครั้งที่เราออกแบบหน้า Landing page ออกมาแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มปรับแก้ไขตรงจุดไหนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้น การปรับเปลี่ยนแต่ละจุดบนหน้าเว็บไซต์ล้วนมีความเสี่ยง เสี่ยงที่หน้าเว็บจะดีขึ้นและเสี่ยงที่หน้าเว็บจะแย่ลง ดังนั้นการทำ A/B Testing จึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อลดความเสี่ยงนี่นั้นเอง โดยจุดเริ่มต้นแนะนำให้ทดสอบกับผู้ใช้งานกลุ่มเล็กๆ เพื่อค้นหาแบบที่ดีที่สุด และค่อยนำตัวเลขการวิเคราะห์ไปปรับใช้กับกลุ่มเป้าหมายที่ใหญ่มากขึ้น
กลยุทธ์เด็ดในการสร้างเว็บไซต์ใหม่
ในการออกแบบเว็บไซต์ใหม่สิ่งที่เราควรทำตั้งแต่แรกเริ่มก็คือการทดสอบ เพราะเราจะไม่รู้ได้เลยว่าเว็บไซต์ใหม่ที่ทำขึ้นมานั้นดีหรือไม่ดี ทำให้การปรับปรุงเว็บไซต์ควรจำทำเรื่อยๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ใหม่ที่ทำออกมานั้นเป็นเว็บไซต์ที่สร้าง Conversion Rate ที่สูงที่สุด
จะทำ A/B Testing เริ่มต้นจุดไหนดี
เพราะเว็บไซต์เป็นเครื่องมือในการทำการตลาดให้กับธุรกิจ ผู้ใช้งานจะเปลี่ยนเป็นลูกค้าได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเว็บไซต์ของเรา ทำให้ทุกข้อมูลบนเว็บไซต์ควรถูกปรับแก้ไขให้ดีเยี่ยมที่สุด เท่าที่เราจะสามารถทำได้ ถ้าคุณเป็นหนึ่งในนักการตลาดที่อยากเริ่มต้นปรับปรุงเว็บไซต์ องค์ประกอบบนเว็บไซต์ที่เราสามารถทำการทดสอบได้จะประกอบไปด้วย
Headline นั้นสำคัญเพราะลูกค้าอ่านทุกจุด
หัวข้อ (Headline) เป็นเหมือนข้อความแรกๆ ที่ผู้ใช้งานเว็บไซต์เลือกอ่าน หัวข้อที่ดีจะต้องตรงประเด็น เข้าใจได้ง่ายว่ากำลังสื่อสารถึงเรื่องอะไร หรือมีเทคนิคในการใช้คำเพื่อสร้างความประทับใจได้แค่ไหน ในการทำ A/B Testing ให้กับหัวข้อนั้นไม่ยาก เราแนะนำให้คุณลองสร้างประโยคที่จะนำมาใช้เป็น Headline ด้วยวิธีการเขียนที่แตกต่างกัน และนำตัวเลขที่ได้มาวิเคราะห์เพื่อค้นหา Headline ที่ลูกค้าของคุณชื่นชอบที่สุด
Body คือจุดที่มีข้อความมากที่สุด
ข้อความบนหน้าเว็บไซต์ที่มีจำนวนมากที่สุด ยาวที่สุด คือจุดไหน ? คำตอบคือ Body นั้นเอง ด้วยข้อความที่เยอะและยาวเราต้องอธิบายให้ชัดเจนได้ทันทีว่าผู้เข้าชมจะได้รับอะไรจากคุณ คุณจะสามารถแก้ไขปัญหาอะไรให้เขาได้บ้าง ข้อความที่สื่อสารได้ตรงประเด็นสามารถเปลี่ยนจากผู้เข้าชมเป็นลูกค้าของคุณได้ คุณสามารถทดสอบการเขียนหลายๆ รูปแบบที่จะส่งไปยังกลุ่มเป้าหมายของคุณ หรือทดสอบว่ากลุ่มเป้าหมายชอบเนื้อหาประมาณไหนก็สามารถทำได้
เรามีตัวช่วยในการทำงานที่ทำให้การเขียนของคุณนั้นง่ายมากขึ้นลองใช้งาน AI Writer ในการแนะนำคำใหม่ๆ เพื่อมาปรับใช้กับการเขียนเนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณได้หรือลอง รู้จัก Claude AI ที่เข้าใจภาษาไทยมากที่สุด พร้อมวิธีการนำไปประยุกต์ใช้กับการทำงาน ก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่เราอยากให้คุณได้ลองใช้งาน
แต่ถ้าคุณต้องการทีมงาน UX Writer มืออาชีพมาช่วยคิดและเขียนเนื้อหาบนเว็บไซต์ให้กับคุณ ปรึกษาเรา และเราสัญญาว่าจะแนะนำโซลูชั่นดีๆ ให้กับคุณได้แน่นอน
แก้ไข Design ให้ถูกใจลูกค้า
เว็บไซต์แต่ละประเภทมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน ทำให้ Conversion Rate ที่จะเกิดขึ้นได้จะต้องใช้เทคนิคในการออกแบบที่แตกต่างกัน ปัญหาคือเราไม่รู้ว่าเว็บไซต์ดีไซน์แบบไหนที่สร้าง ROI ได้สูงที่สุด ทำให้การทำ A/B Testing เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดที่จะหยิบมาแก้ไขปัญหานี้ คุณสามารถหยิบทุกจุดมาทดสอบได้ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพสินค้า, รูปโปรโมชั่น, วีดีโอ แม้แต่ขนาดของข้อความและสีบนปุ่มทุกจุดบนหน้าเว็บไซต์ ก็ล้วนสร้าง Conversion Rate ที่แตกต่างกันได้เสมอ
ข้อมูลต้องชัดเจน
ข้อมูลที่ครบถ้วนและชัดเจนแต่ต้องไม่มากจนเกินไป ข้อมูลที่เยอะเกินไปจะส่งผลให้ผู้ใช้งานมีคำถามภายในหัวว่าจะเริ่มต้นอ่านจากตรงไหนดี ฉะนั่นคุณสามารถทำ AB Testing เพื่อทดสอบได้ว่าข้อความที่มีความยาวประมาณไหน และข้อมูลเรื่องอะไรบ้างที่ช่วยปิดการขายได้ดีขึ้น
ทดสอบหา CTA (Call-to-action) ที่ดีที่สุด
สิ่งที่ส่งผลโดยตรงกับยอดขายสินค้าและการส่งข้อมูลแบบฟอร์ม การทำ A/B Testing กับปุ่มอย่าง CTA จะช่วยให้ทดสอบได้ว่าคำอะไรที่กระตุ้นผู้ใช้งานได้ดีกว่ากัน แม้แต่การวางตำแหน่งของปุ่มกดบนหน้าเว็บไซต์ ปุ่มกดที่แสดงอยู่ในแต่ละตำแหน่งก็ส่งผลถึงตัวเลขที่แตกต่างกันด้วยเช่นกัน
A/B Testing มีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร
Split URL Testing
เป็นการทดสอบหน้าเว็บไซต์ด้วยตัวแปรเว็บไซต์เวอร์ชั่นใหม่และเวอร์ชั่นเก่าที่กำลังทำงานอยู่ เพื่อค้นหาว่าเว็บไซต์แบบไหนมีผลลัพท์ที่ดีกว่ากัน การทำ Split URL Testing เหมาะกับการทดสอบหน้าเว็บที่มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการออกแบบเช่น ต้องการทดสอบหน้า Landing Page ว่าแบบเก่า (URL A)หรือรูปแบบที่ปรับปรุงใหม่ (URL B) ส่งผลต่อ Conversion Rate มากกว่ากัน โดยเว็บไซต์ทั้ง 2 เวอร์ชั่นจะมีการออกแบบที่แตกต่างกัน อาจจะไม่เหมือนกันเลยหรือมีการปรับเปลี่ยนแค่บางจุดก็ได้เพื่อค้นหาหน้าที่เป็น The Winner
ข้อดีในการทำ A/B Testing ด้วยรูปแบบ Split URL Testing
- เหมาะสำหรับทดสอบดีไซน์ใหม่และดีไซน์เก่าว่าแบบไหนมีประสิทธิภาพสูงกว่ากัน
- ใช้ทดสอบหาปัญหาของดีไซน์ตัวใหม่ เพราะเรายังคงใช้งานดีไซน์เก่าอยู่ด้วยทำให้สลับสับเปลี่ยนได้ง่าย
- ทดสอบการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาบนเว็บไซต์ได้เป็นอย่างดี เพราะจะเกิดการเปรียบเทียบอย่างชัดเจน
Multivariate testing
ถ้าคุณกำลังมีตัวแปรที่เยอะหลายแบบการทดสอบแบบ Multivariate testing (MVT) จะทำงานเพื่อทดสอบตัวแปรหลายตัวพร้อมกัน อาจจะ 3-4 ตัวแปรเพื่อวิเคราะห์ออกมาว่าตัวแปรไหนที่ทำงานได้ดีที่สุด วิธีนี้จะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนมากขึ้นเพราะการวัดผลอาจจะใช้ตัวแปร A B C D พร้อมๆ กันในการวัดผล
ข้อดีในการทำ A/B Testing ด้วยรูปแบบ Multivariate testing
- ประหยัดเวลาในการทดสอบ คุณจะสามารถทดสอบทุกตัวแปรที่มีได้ในครั้งเดียว
- วิเคราะห์ Conversion Rate ในส่วนที่มีความเกี่ยวข้องกันได้เช่น รูปภาพโปรโมชั่นมักจะมีความเกี่ยวข้องกันกับปุ่มกด Call To Action
Multipage testing
เป็นการทดสอบดีไซน์เดียวแต่ปรับเปลี่ยนตัวแปรให้แตกต่างกันเช่น คุณมีเว็บไซต์ Landing Page สำหรับขายสินค้าและกำลังต้องการหาตำแหน่งในการวางปุ่ม CTA ที่เหมาะสมจึงได้ทำการออกแบบตัวแปร A B และ C ขึ้นมาโดยการวางตำแหน่งที่แตกต่างกันเพื่อวัดผลหาตำแหน่งในการวางปุ่ม CTA ที่ดีที่สุด
ข้อดีในการทำ A/B Testing ด้วยรูปแบบ Multipage testing
- เป็นวิธีการทดสอบแบบพื้นฐานสามารถสร้างเว็บไซต์หลายๆ หน้าเพื่อทำการทดสอบได้
AB Testing ช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างไร
เพราะการทำ A/B Testing เป็นเหมือนการค้นหาจุดอ่อนของเว็บไซต์ให้เจอทันที เป็นการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด แต่หนึ่งสิ่งที่เราต้องมีก่อนการทำ A/B Testing นั้นคือ Traffic ที่จะมาเป็นลูกค้าของเรา ในการทำ A/B Testing จึงต้องมีการทำการตลาดในจุดอื่นมาแล้วเพื่อให้มีจำนวนผู้ใช้งานสำหรับทดสอบเว็บไซต์ของเราก่อนเช่น การยิงโฆษณาด้วย Ads ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการ หรือด้วยวิธีการทำ SEO และ SEM
แล้วคุณพร้อมทำ A/B Testing หรือยัง
ถ้าคุณกำลังมีเว็บไซต์และต้องการเพิ่ม Conversion Rate โดยทันทีการทำ A/B Testing เป็นตัวเลือกที่ดีมากที่คุณควรเลือกใช้ ยิ่งคุณมีเว็บไซต์ที่พึ่งปรับปรุงใหม่และยังไม่รู้ว่า จุดไหนของเว็บไซต์ของคุณกำลังทำให้ยอดขายหายไป เรายิ่งแนะนำให้คุณทำ A/B Testing เพื่อค้นหาวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ลูกค้าของคุณชื่นชอบ
ถ้าคุณต้องการทีมทำเว็บไซต์และเพิ่มยอดขายให้กับคุณด้วยไม่ว่าจะเป็นการตลาดแบบใด ติดต่อเรา เพื่อพูดคุยกันได้เลย