เพิ่มความสำเร็จแบบก้าวกระโดด ด้วยกลยุทธ์ SEO และแคมเปญโฆษณาบน Google Ads

Katu Dermatology

รายละเอียดโปรเจค

คลินิกผิวหนังกะทู้ เป็นคลินิคด้านผิวหนังตั้งอยู่ที่อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต จากจุดแรกเริ่มทางคลินิกต้องการทำเว็บไซต์ใหม่และต่อยอดการทำเว็บไซต์ด้วยแผนการตลาดแบบ Hybrid Marketing ด้วยเครื่องมือ Google Ads และทำ SEO เพื่อเพิ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ให้ทางคลินิก ทาง Grappik ได้เข้ามาดูแลตั้งแต่การวางโครงสร้างเว็บไซต์ใหม่ทั้งหมด ไปจนถึงขั้นตอนการทำ SEO และทำแคมเปญโฆษณา Google Ads เจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งคนไทยและคนต่างชาติ

จากเว็บไซต์ที่เริ่มต้นจาก 0 ในตอนนี้เว็บไซต์คลินิกผิวหนังกะทู้มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นจาก Organic Search กว่า 700% และยังมีตัวเลข ROI เพิ่มขึ้นกว่า 239% ซึ่งใน Case study นี้ เรานำเสนอ 3 ปัจจัยหลักที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จในการทำเว็บไซต์ขึ้นมาใหม่และใช้แผนการตลาดแบบ Hybrid Marketing ด้วยเครื่องมือ Google Ads และทำ SEO ร่วมกันด้วย

แบรนด์

Katu Dermatology

Solutions

Katu Dermatology

เราได้ทำเว็บไซต์คลินิคขึ้นมาใหม่ทั้งหมดผ่านการวางโครงสร้างแบบใหม่เพื่อให้ลูกค้าค้นหาบริการของคลินิคได้ง่ายมากขึ้น เพราะเราเห็นปัญหาแล้วว่าบริการของคลินิคนั่นมีจำนวนมากทำให้เกิดความสับสนในขั้นตอนของการค้นหาปัญหาที่ตัวเองเจอ จนถึงขั้นตอนของการทำการตลาดเราใช้เทคนิคการตลาดแบบ Hybrid Marketing คือการทำการตลาดทั้ง SEO และ SEM ควบคู่กันไปเพื่อให้เกิดผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว เพื่อเพิ่มปริมาณของ Lead generation ในทันทีและเรายังต้องการเพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์แบบออร์แกนิกสำหรับการทำการตลาดต่อในอนาคต

Organic Traffic

จำนวนผู้ใช้งานแบบ Organic มากกว่า 7,000 ผู้ใช้/เดือน

ROI

ผลตอบแทนจากการลงทุนที่คุ้มค่ากว่า 239% และเพิ่มมากขึ้นในทุกเดือน

Conversion Rate

มีลูกค้าเข้าสู่เว็บไซต์และมีอัตราการเกิด Conversions ที่สูงขึ้น

Process

เราเริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการวิเคราะห์เว็บไซต์ตามโจทย์ที่คลินิคต้องการและได้แนะนำการวางโครงสร้าง Sitemap ใหม่ทั้งหมดเพื่อจัดหมวดหมู่ของบริการให้เหมาะสมกับการใช้งาน

การจัดวางโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดีช่วยเพิ่ม Conversion Rate และลด Bounce rate ให้น้อยลงได้ส่งผลต่อประสิทธิภาพ SEO ที่ดีขึ้น

หลังจากนั้นเราได้พูดคุยถึง Mood and Tone ดีไซน์เว็บไซต์ใหม่ที่ลูกค้าต้องการผสมกับไอเดียในการออกแบบของทีมออกแบบ UX/UI ของเราทำให้เราได้กำหนดธีมของเว็บไซต์ออกมาได้ก่อนที่จะดีไซน์ออกมาทั้งในเวอร์ชั่นเดสก์ท็อปและโมบายเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่างครบถ้วน

ทำไมต้องทำเว็บไซต์เพื่อทำแคมเปญโฆษณาบน Google Ads

เว็บไซต์เป็นเหมือน Hub Marketing และยังถือว่าเป็นแพลตฟอร์มที่เราเองเป็นเจ้าของแตกต่างกับแชแนลอื่นที่เรานั้นเป็นเพียงผู้ใช้งาน ทำให้การทำการตลาดในปัจจุบันจึงต้องมีการทำเว็บไซต์เพื่อใช้สำหรับให้ข้อมูลลูกค้า มองหาลูกค้าใหม่ ไปจนถึงขั้นของการปิดการขาย หลายธุรกิจที่ทำเว็บไซต์แต่ไม่ประสบความสำเร็จอาจเพราะในการทำเว็บไซต์นั้นจะต้องต่อยอดกลยุทธ์ในการหาลูกค้าใหม่ด้วย ช่องทางกลยุทธ์ในการหาลูกค้าใหม่ให้กับเว็บไซต์นั้นมีหลายช่องทาง สำหรับใน Case Study นี้เราจะมาแนะนำการทำเว็บไซต์และใช้การทำแคมเปญโฆษณาด้วย Google Ads และทำ SEO ร่วมกัน

เว็บไซต์เป็นเหมือนเครื่องยนต์ที่ต้องเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อสร้างแรงในการขับเคลื่อนได้

ในการทำเว็บไซต์เราจึงมองตัวเลข ROI (Return on Investment) ให้กับธุรกิจที่เริ่มต้นทำเว็บไซต์ด้วย เพราะการที่เว็บไซต์จะประสบความสำเร็จหรือไม่ตัวเลข ROI จะเป็นตัวตอบคำถามว่างบประมาณที่คุณได้ลงทุนไปกลับกลายเป็นผลตอบแทนการลงทุนมากน้อยขนาดไหน

จุดเด่นของการทำโฆษณาบน Google Ads

อันดับแรกเราต้องเข้าใจเป้าหมายและการทำงานของแต่ละแพลตฟอร์มก่อน เพราะพฤติกรรมของลูกค้าในแต่ละแพลตฟอร์มนั้นแตกต่างกันและยังมี Funnel ที่แตกต่างกันด้วย สำหรับการทำแคมเปญโฆษณาบน Google Ads นั้นมีข้อดีคือลูกค้าจะทำการค้นหาที่เข้าต้องการผ่านการใช้งาน Google Search โดยการพิมพ์คำค้นหา (Keyword) ที่ต้องการลงไปเพื่อมองหาสินค้าหรือบริการที่แสดงอยู่บน Google Search ซึ่งโดยปกติแล้วลูกค้ามักจะค้นหาเพราะพบเจอปัญหาอะไรสักอย่างและต้องการแก้ไขปัญหานั้น สิ่งที่ Google Ads ทำคือการแสดงธุรกิจของคุณให้กับลูกค้าได้เจอและนำเสนอโซลูชั่นในการแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าได้

จากโมเดลพีระมิดด้านบนจะเห็นว่าลูกค้าจะพบเจอเราผ่านการค้นหาหัวข้อบางอย่างที่เขาสนใจ และเมื่อลูกค้าพบเจอเราผ่านแคมเปญโฆษณา Google Ads ก็จะทำให้เราสามารถทำการตลาดกับลูกค้าที่กำลังมองหาวิธีแก้ไขปัญหาให้กับเขาได้

หลังจากนั้นสิ่งที่เว็บไซต์ทำจึงเป็นการนำเสนอขั้นตอนการแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าด้วยหน้าเว็บไซต์ที่มีรายละเอียดของบริการเอาไว้อย่างครบถ้วนและยังมีช่องทางในการเก็บ Lead Generation เพื่อให้คลินิกสามารถติดต่อกลับไปยังลูกค้าที่ต้องการรับคำปรึกษาได้เพื่อนัดวันเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ได้ทันที

ผลลัพธ์จากกระบวนการทำ SEO

  • คีย์เวิร์ดอันดับ 1 เราเพิ่มจำนวนคีย์เวิร์ดที่ติดอันดับ 1 มากกว่า 10 Keyword
  • เพิ่ม Conversions Rate ผู้ใช้งานพบเจอคลินิกผ่านการทำ SEO ทำให้มีตัวเลข conversions ที่สูงขึ้นมาก
  • คีย์เวิรด์ติด Google กว่า 2000 Keywords ทั้ง Target Keywords ที่มีการติดหน้าแรก Google และเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

เราได้ทำ SEO แบบเน้น Local SEO เพื่อเน้นกลุ่มลูกค้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เราเริ่มต้นตั้งแต่การตรวจสอบ SEO ทั้งหมดค้นหาจุดด้อยที่ส่งผลทำให้อันดับไม่ไซต์ไม่ดี จากการวิเคราะห์เราได้ทำการสร้างเว็บไซต์ใหม่ที่มีความเร็ว เปิดใช้งานบนโทรศัพท์มือถือได้ ไปจนถึงการกำหนด H1 tags และ Meta tags ที่ถูกต้องโดยที่ขั้นตอนการทำงานของเราทั้งหมดคือ

  • SEO Audit : วิเคราะห์หาจุดด้อยของเว็บไซต์และแก้ไข
  • Technical SEO : ทำตามเทคนิคที่ส่งเสริมให้อันดับ SEO ดีขึ้น
  • Keyword research : ค้นหาคีเวิร์ดที่เหมาะสม มีลูกค้าค้นหาและทำได้ไม่ยากจนเกินไป
  • On-page SEO : ปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้ถูกหลัก SEO
  • Content writing : เขียนบทความคุณภาพเพื่อเพิ่มจำนวนผู้เข้าใช้เว็บไซต์

ผลลัพธ์จากการทำ SEO ของเราทำให้เว็บไซต์อยู่ในคีเวิร์ดที่เราต้องการตามตัวอย่างด้านล่าง ทำให้ลูกค้าสามารถพบเจอคลีนิกได้ทันทีหลังจากที่เขาทำการค้นหาสิ่งที่เขาต้องการบน Google Search

ผลลัพธ์จากกระบวนการทำ SEO
ผลลัพธ์จากกระบวนการทำ SEO

การค้นหาคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมก็สำคัญเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายค้นพบธุรกิจเราจึงเน้นไปที่ Local SEO และเลือกใช้คีย์เวิร์ดแบบ long-tail มาประกอบเพื่อให้เห็นผลลัพท์ที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยที่เป้าหมายของเราคือการอยู่จุดสูงสุดของ Local business ให้ได้และเพิ่มปริมาณคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ให้มากยิ่งขึ้นในคีย์เวิร์ดที่มีจำนวนการค้นหาที่สูง

เข้าใจความแตกต่างระหว่าง SEM และ SEO

เมื่อลูกค้าที่เข้าจาก Google Ads ไม่ใช่คนที่พร้อมจะซื้อสินค้าหรือบริการทั้งหมด ทำให้เราต้องเพิ่มการพบเจอกลุ่มเป้าหมายด้วยการสร้างบทความที่เพิ่มการรับรู้ (Awareness) ให้กับกลุ่มเป้าหมาย อย่างที่เรานำเสนอไปในขั้นต้นว่าลูกค้าที่ใช้งาน Google Search จะต้องพบเจอกับปัญหาบางอย่างที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญมาแก้ไข ทำให้เราใช้กลยุทธ์แบบ Hybrid Marketing คือการโฟกัสทั้ง 2 เครื่องมือทั้ง SEM (Search Engine Marketing) และ SEO (Search engine optimization) สำหรับความแตกต่างของทั้ง 2 เครื่องมือคือ

SEM (Search Engine Marketing)

สำหรับเครื่องมือในการทำ SEM นั้นคือ Google Ads สิ่งที่เกิดขึ้นคือเป็นเครื่องมือที่สามารถทำได้ทันที เห็นผลทันที แต่มีการเสียค่าแคมเปญโฆษณาบน Google Ads แบบเป็น CPC (Cost per click) เราจะเน้นการใช้เครื่องมือนี้ในตอนเริ่มต้นและโฟกัสงบประมาณแบบสม่ำเสมอเพื่อสร้างลูกค้าให้คลินิกได้ตั้งแต่วันที่ 1 ที่เว็บไซต์เริ่มออนไลน์

SEO (Search Engine Optimization)

ในการทำ SEO นั้นต้องใช้ระยะเวลากว่าจะเห็นผล ทำให้ในช่วงเริ่มต้นเราจะยังไม่เห็นถึงยอดขายหรือ Lead Generation ที่มาจากการทำ SEO อย่างชัดเจนมากนัก แต่การทำ SEO ผ่านวิธีการของเราจะสามารถสร้างการรับรู้ (Awareness) ไปยังกลุ่มเป้าหมายได้และเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ (Traffic) ให้กับเว็บไซต์ได้มากขึ้นเรื่อยๆ แบบ Organic Search ซึ่งจะส่งผลดีต่อคลินิกในระยะยาว ซึ่งในปัจจุบันมีผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคลินิกเติบโตผ่าน Organic Search กว่า 700% และมากขึ้นในทุกเดือน

ทำเว็บไซต์แบบไหนที่ช่วยให้การทำแคมเปญโฆษณามีประสิทธิภาพ

Google นั้นได้ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ ที่จะทำให้การทำ SEO และแคมเปญโฆษณาบน Google Ads มีประสิทธิภาพที่ดีมากขึ้น ในขั้นตอนการทำเว็บไซต์เราคำนึงถึงหลายส่วนแน่นอนว่าเว็บไซต์นี้จะต้องถูกออกแบบมาเพื่อสร้างยอดขาย ทำให้กลุ่มเป้าหมายที่เราจะต้องโฟกัสมากที่สุดกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มลูกค้าของคลินิก เราได้ทำการวางโครงสร้างของเว็บไซต์ใหม่ทั้งหมด มีการจัดเรียงข้อมูลที่เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้นและต้องค้นหาได้ง่ายและที่สำคัญจะต้องออกแบบ Mobile-Friendly อีกด้วย

เว็บไซต์หนึ่งเว็บไซต์จะต้องใช้งานอีกนาน ทำให้การดูแลระบบจะต้องไม่ซับซ้อน จะต้องให้ผู้ใช้งานที่ไม่ได้มีความรู้ด้านเทคโนโลยีมากนักก็สามารถใช้งานและดูแลเว็บไซต์ได้ เราเลือกใช้ระบบหลังบ้านด้วย WordPress ที่มีการดูแลที่ไม่ซับซ้อนและมีการอัปเดดระบบอยู่เสมอ และเรายังมีการอบรบผู้ดูแลระบบภายหลังการส่งมอบงานอีกด้วย

เรามีการทำ On-page SEO เพื่อตั้งค่าตัวเว็บไซต์ให้รองรับกับการทำ SEO มากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นขั้นตอนพื้นฐานในการเริ่มต้นทำ SEO สำหรับเว็บไซต์ทุกเว็บไซต์ เพราะการทำ On-page SEO จะทำให้ Google เข้าใจเว็บไซต์ของเรามากยิ่งขึ้นว่าเรากำลังให้บริการในด้านไหนและมี Keyword อะไรที่สำคัญ ในปัจจุบันเว็บไซต์คลินิกกระทู้มี Keyword ที่ติดบน Google Search มากกว่า 2,912 คำจึงเป็นที่มาของจำนวนผู้ใช้งาน Organic Search ที่เติบโตกว่า 700%

Apply Strategies

ถ้าคุณกำลังต้องการทำเว็บไซต์ใหม่ทั้งหมด และต้องการวางโครงสร้างสำหรับทำการตลาดในอนาคตไม่ว่าจะเป็นการทำ SEO และ SEM เว็บไซต์ที่ทำขึ้นมาใหม่นั้นควรจะถูกวางแผนรองรับเอาไว้แล้วตั้งแต่การวิเคราะห์เว็บไซต์ไปจนถึงการวางคีเวิร์ดที่เหมาะสมในการทำการตลาดเอาไว้จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณ พร้อม สำหรับการทำการตลาดได้ทันที

และถ้าคุณกำลังลังเลว่าจะทำการตลาดด้วยวิธี SEO หรือ SEM เราขอแนะนำกลยุทธ์แบบ Hybrid Marketing ของเราที่จะช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าของคุณได้ทันทีและยังมีการเติบโตของผู้ใช้งานที่สูงขึ้นในทุกปีทำให้คุณจะลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ Ads ลงได้ในตอนที่ SEO นั้นเติบโตเต็มที่