โซลูชันที่เราเลือกใช้
เราได้ทำเว็บไซต์คลินิคขึ้นมาใหม่ทั้งหมดผ่านการวางโครงสร้างแบบใหม่เพื่อให้ลูกค้าค้นหาบริการของคลินิคได้ง่ายมากขึ้น เพราะเราเห็นปัญหาแล้วว่าบริการของคลินิคนั่นมีจำนวนมากทำให้เกิดความสับสนในขั้นตอนของการค้นหาปัญหาที่ตัวเองเจอ จนถึงขั้นตอนของการทำการตลาดเราใช้เทคนิคการตลาดแบบ Hybrid Marketing คือการทำการตลาดทั้ง SEO และ SEM ควบคู่กันไปเพื่อให้เกิดผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว เพื่อเพิ่มปริมาณของ Lead generation ในทันทีและเรายังต้องการเพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์แบบออร์แกนิกสำหรับการทำการตลาดต่อในอนาคต
มีทราฟฟิกเพิ่มขึ้น +356%
มีทราฟฟิกผู้ใช้งานแบบ Organic กว่า 7,000 คน
ผลตอบแทน ROI+239%
ผลตอบแทนจากการลงทุนที่คุ้มค่ากว่า 239% และเพิ่มมากขึ้น
Conversions +100%
มีลูกค้าเข้าสู่เว็บไซต์คลินิกและมี conversions สูงขึ้น
กระบวนการของเรา
เราเริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการวิเคราะห์เว็บไซต์ตามโจทย์ที่คลินิคต้องการและได้แนะนำการวางโครงสร้าง Sitemap ใหม่ทั้งหมดเพื่อจัดหมวดหมู่ของบริการให้เหมาะสมกับการใช้งาน
การจัดวางโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดีช่วยเพิ่ม Conversion Rate และลด Bounce rate ให้น้อยลงได้ส่งผลต่อประสิทธิภาพ SEO ที่ดีขึ้น
หลังจากนั้นเราได้พูดคุยถึง Mood and Tone ดีไซน์เว็บไซต์ใหม่ที่ลูกค้าต้องการผสมกับไอเดียในการออกแบบของทีมออกแบบ UX/UI ของเราทำให้เราได้กำหนดธีมของเว็บไซต์ออกมาได้ก่อนที่จะดีไซน์ออกมาทั้งในเวอร์ชั่นเดสก์ท็อปและโมบายเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่างครบถ้วน
ทำไมต้องทำเว็บไซต์เพื่อทำแคมเปญโฆษณาบน Google Ads
เว็บไซต์เป็นเหมือน Hub Marketing และยังถือว่าเป็นแพลตฟอร์มที่เราเองเป็นเจ้าของแตกต่างกับแชแนลอื่นที่เรานั้นเป็นเพียงผู้ใช้งาน ทำให้การทำการตลาดในปัจจุบันจึงต้องมีการทำเว็บไซต์เพื่อใช้สำหรับให้ข้อมูลลูกค้า มองหาลูกค้าใหม่ ไปจนถึงขั้นของการปิดการขาย หลายธุรกิจที่ทำเว็บไซต์แต่ไม่ประสบความสำเร็จอาจเพราะในการทำเว็บไซต์นั้นจะต้องต่อยอดกลยุทธ์ในการหาลูกค้าใหม่ด้วย ช่องทางกลยุทธ์ในการหาลูกค้าใหม่ให้กับเว็บไซต์นั้นมีหลายช่องทาง สำหรับใน Case Study นี้เราจะมาแนะนำการทำเว็บไซต์และใช้การทำแคมเปญโฆษณาด้วย Google Ads และทำ SEO ร่วมกัน
เว็บไซต์เป็นเหมือนเครื่องยนต์ที่ต้องเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อสร้างแรงในการขับเคลื่อนได้
ในการทำเว็บไซต์เราจึงมองตัวเลข ROI (Return on Investment) ให้กับธุรกิจที่เริ่มต้นทำเว็บไซต์ด้วย เพราะการที่เว็บไซต์จะประสบความสำเร็จหรือไม่ตัวเลข ROI จะเป็นตัวตอบคำถามว่างบประมาณที่คุณได้ลงทุนไปกลับกลายเป็นผลตอบแทนการลงทุนมากน้อยขนาดไหน
จุดเด่นของการทำโฆษณาบน Google Ads
อันดับแรกเราต้องเข้าใจเป้าหมายและการทำงานของแต่ละแพลตฟอร์มก่อน เพราะพฤติกรรมของลูกค้าในแต่ละแพลตฟอร์มนั้นแตกต่างกันและยังมี Funnel ที่แตกต่างกันด้วย สำหรับการทำแคมเปญโฆษณาบน Google Ads นั้นมีข้อดีคือลูกค้าจะทำการค้นหาที่เข้าต้องการผ่านการใช้งาน Google Search โดยการพิมพ์คำค้นหา (Keyword) ที่ต้องการลงไปเพื่อมองหาสินค้าหรือบริการที่แสดงอยู่บน Google Search ซึ่งโดยปกติแล้วลูกค้ามักจะค้นหาเพราะพบเจอปัญหาอะไรสักอย่างและต้องการแก้ไขปัญหานั้น สิ่งที่ Google Ads ทำคือการแสดงธุรกิจของคุณให้กับลูกค้าได้เจอและนำเสนอโซลูชั่นในการแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าได้
จากโมเดลพีระมิดด้านบนจะเห็นว่าลูกค้าจะพบเจอเราผ่านการค้นหาหัวข้อบางอย่างที่เขาสนใจ และเมื่อลูกค้าพบเจอเราผ่านแคมเปญโฆษณา Google Ads ก็จะทำให้เราสามารถทำการตลาดกับลูกค้าที่กำลังมองหาวิธีแก้ไขปัญหาให้กับเขาได้
หลังจากนั้นสิ่งที่เว็บไซต์ทำจึงเป็นการนำเสนอขั้นตอนการแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าด้วยหน้าเว็บไซต์ที่มีรายละเอียดของบริการเอาไว้อย่างครบถ้วนและยังมีช่องทางในการเก็บ Lead Generation เพื่อให้คลินิกสามารถติดต่อกลับไปยังลูกค้าที่ต้องการรับคำปรึกษาได้เพื่อนัดวันเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ได้ทันที
ผลลัพธ์จากกระบวนการทำ SEO
คีย์เวิร์ดอันดับ 1
เราเพิ่มจำนวนคีย์เวิร์ดที่ติดอันดับ 1 มากกว่า 10 Keyword
เพิ่มจำนวน conversions
ผู้ใช้งานพบเจอคลินิกผ่านการทำ SEO ทำให้มีตัวเลข conversions ที่สูงขึ้นมาก
คีย์เวิรด์ติด Google กว่า 2000 Keyword
ทั้ง target keywords ที่มีการติดหน้าแรก Google และเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
เราได้ทำ SEO แบบเน้น Local SEO เพื่อเน้นกลุ่มลูกค้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เราเริ่มต้นตั้งแต่การตรวจสอบ SEO ทั้งหมดค้นหาจุดด้อยที่ส่งผลทำให้อันดับไม่ไซต์ไม่ดี จากการวิเคราะห์เราได้ทำการสร้างเว็บไซต์ใหม่ที่มีความเร็ว เปิดใช้งานบนโทรศัพท์มือถือได้ ไปจนถึงการกำหนด H1 tags และ Meta tags ที่ถูกต้องโดยที่ขั้นตอนการทำงานของเราทั้งหมดคือ
- SEO Audit : วิเคราะห์หาจุดด้อยของเว็บไซต์และแก้ไข
- Technical SEO : ทำตามเทคนิคที่ส่งเสริมให้อันดับ SEO ดีขึ้น
- Keyword research : ค้นหาคีเวิร์ดที่เหมาะสม มีลูกค้าค้นหาและทำได้ไม่ยากจนเกินไป
- On-page SEO : ปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้ถูกหลัก SEO
- Content writing : เขียนบทความคุณภาพเพื่อเพิ่มจำนวนผู้เข้าใช้เว็บไซต์
ผลลัพธ์จากการทำ SEO ของเราทำให้เว็บไซต์อยู่ในคีเวิร์ดที่เราต้องการตามตัวอย่างด้านล่าง ทำให้ลูกค้าสามารถพบเจอคลีนิกได้ทันทีหลังจากที่เขาทำการค้นหาสิ่งที่เขาต้องการบน Google Search
การค้นหาคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมก็สำคัญเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายค้นพบธุรกิจเราจึงเน้นไปที่ Local SEO และเลือกใช้คีย์เวิร์ดแบบ long-tail มาประกอบเพื่อให้เห็นผลลัพท์ที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยที่เป้าหมายของเราคือการอยู่จุดสูงสุดของ Local business ให้ได้และเพิ่มปริมาณคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ให้มากยิ่งขึ้นในคีย์เวิร์ดที่มีจำนวนการค้นหาที่สูง
เข้าใจความแตกต่างระหว่าง SEM และ SEO
เมื่อลูกค้าที่เข้าจาก Google Ads ไม่ใช่คนที่พร้อมจะซื้อสินค้าหรือบริการทั้งหมด ทำให้เราต้องเพิ่มการพบเจอกลุ่มเป้าหมายด้วยการสร้างบทความที่เพิ่มการรับรู้ (Awareness) ให้กับกลุ่มเป้าหมาย อย่างที่เรานำเสนอไปในขั้นต้นว่าลูกค้าที่ใช้งาน Google Search จะต้องพบเจอกับปัญหาบางอย่างที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญมาแก้ไข ทำให้เราใช้กลยุทธ์แบบ Hybrid Marketing คือการโฟกัสทั้ง 2 เครื่องมือทั้ง SEM (Search Engine Marketing) และ SEO (Search engine optimization) สำหรับความแตกต่างของทั้ง 2 เครื่องมือคือ
SEM (Search Engine Marketing)
สำหรับเครื่องมือในการทำ SEM นั้นคือ Google Ads สิ่งที่เกิดขึ้นคือเป็นเครื่องมือที่สามารถทำได้ทันที เห็นผลทันที แต่มีการเสียค่าแคมเปญโฆษณาบน Google Ads แบบเป็น CPC (Cost per click) เราจะเน้นการใช้เครื่องมือนี้ในตอนเริ่มต้นและโฟกัสงบประมาณแบบสม่ำเสมอเพื่อสร้างลูกค้าให้คลินิกได้ตั้งแต่วันที่ 1 ที่เว็บไซต์เริ่มออนไลน์
SEO (Search engine optimization)
ในการทำ SEO นั้นต้องใช้ระยะเวลากว่าจะเห็นผล ทำให้ในช่วงเริ่มต้นเราจะยังไม่เห็นถึงยอดขายหรือ Lead Generation ที่มาจากการทำ SEO อย่างชัดเจนมากนัก แต่การทำ SEO ผ่านวิธีการของเราจะสามารถสร้างการรับรู้ (Awareness) ไปยังกลุ่มเป้าหมายได้และเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ (Traffic) ให้กับเว็บไซต์ได้มากขึ้นเรื่อยๆ แบบ Organic Search ซึ่งจะส่งผลดีต่อคลินิกในระยะยาว ซึ่งในปัจจุบันมีผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคลินิกเติบโตผ่าน Organic Search กว่า 700% และมากขึ้นในทุกเดือน
ทำเว็บไซต์แบบไหนที่ช่วยให้การทำแคมเปญโฆษณามีประสิทธิภาพ
Google นั้นได้ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ ที่จะทำให้การทำ SEO และแคมเปญโฆษณาบน Google Ads มีประสิทธิภาพที่ดีมากขึ้น ในขั้นตอนการทำเว็บไซต์เราคำนึงถึงหลายส่วนแน่นอนว่าเว็บไซต์นี้จะต้องถูกออกแบบมาเพื่อสร้างยอดขาย ทำให้กลุ่มเป้าหมายที่เราจะต้องโฟกัสมากที่สุดกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มลูกค้าของคลินิก เราได้ทำการวางโครงสร้างของเว็บไซต์ใหม่ทั้งหมด มีการจัดเรียงข้อมูลที่เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้นและต้องค้นหาได้ง่ายและที่สำคัญจะต้องออกแบบ Mobile-Friendly อีกด้วย
เว็บไซต์หนึ่งเว็บไซต์จะต้องใช้งานอีกนาน ทำให้การดูแลระบบจะต้องไม่ซับซ้อน จะต้องให้ผู้ใช้งานที่ไม่ได้มีความรู้ด้านเทคโนโลยีมากนักก็สามารถใช้งานและดูแลเว็บไซต์ได้ เราเลือกใช้ระบบหลังบ้านด้วย WordPress ที่มีการดูแลที่ไม่ซับซ้อนและมีการอัปเดดระบบอยู่เสมอ และเรายังมีการอบรบผู้ดูแลระบบภายหลังการส่งมอบงานอีกด้วย
เรามีการทำ On-page SEO เพื่อตั้งค่าตัวเว็บไซต์ให้รองรับกับการทำ SEO มากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นขั้นตอนพื้นฐานในการเริ่มต้นทำ SEO สำหรับเว็บไซต์ทุกเว็บไซต์ เพราะการทำ On-page SEO จะทำให้ Google เข้าใจเว็บไซต์ของเรามากยิ่งขึ้นว่าเรากำลังให้บริการในด้านไหนและมี Keyword อะไรที่สำคัญ ในปัจจุบันเว็บไซต์คลินิกกระทู้มี Keyword ที่ติดบน Google Search มากกว่า 2,912 คำจึงเป็นที่มาของจำนวนผู้ใช้งาน Organic Search ที่เติบโตกว่า 700%
นำกลยุทธ์มาปรับใช้กับธุรกิจคุณ
ถ้าคุณกำลังต้องการทำเว็บไซต์ใหม่ทั้งหมด และต้องการวางโครงสร้างสำหรับทำการตลาดในอนาคตไม่ว่าจะเป็นการทำ SEO และ SEM เว็บไซต์ที่ทำขึ้นมาใหม่นั้นควรจะถูกวางแผนรองรับเอาไว้แล้วตั้งแต่การวิเคราะห์เว็บไซต์ไปจนถึงการวางคีเวิร์ดที่เหมาะสมในการทำการตลาดเอาไว้จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณ พร้อม สำหรับการทำการตลาดได้ทันที
และถ้าคุณกำลังลังเลว่าจะทำการตลาดด้วยวิธี SEO หรือ SEM เราขอแนะนำกลยุทธ์แบบ Hybrid Marketing ของเราที่จะช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าของคุณได้ทันทีและยังมีการเติบโตของผู้ใช้งานที่สูงขึ้นในทุกปีทำให้คุณจะลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ Ads ลงได้ในตอนที่ SEO นั้นเติบโตเต็มที่