ออกแบบเว็บไซต์ E-commerce เป็นเรื่องสำคัญเพราะในปีที่ผ่านมานั้นธุรกิจขายของออนไลน์หรือเว็บไซต์ E-Commerce ได้เติบโตขึ้นอย่างมาก ผู้คนหันมาซื้อของในร้านค้าออนไลน์กันมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน เพราะมีสินค้าหลากหลายชนิดให้เลือกสรรค์อีกทั้งยังได้สินค้าที่ราคาถูกแถมยังประหยัดเวลาในการเดินเลือกซื้อไปได้มากด้วย
นอกจากสินค้าที่ขายกันแล้วการออกแบบเว็บไซต์ E-Commerce ที่เป็นแหล่งรวมสินค้าก็ควรที่จะต้องสวยและมีการนำเสนอดี ถ้าให้นึกภาพก็คงเหมือนมีร้านขายของสองร้านตั้งติดกันขายสินค้าเหมือนกันแต่อีกร้านนึงจัดร้านได้ดูดีกว่า แน่นอนว่าลูกค้าก็ย่อมเลือกร้านที่ดูดีกว่าอยู่แล้ว เพราะงั้นเรามาทำเว็บไซต์ขายสินค้าของเราให้ดูดีน่าเข้ามาเลือกซื้อสินค้าด้วยหลักการ ออกแบบเว็บไซต์ E-Commerce กันดีกว่า
1. ภาพสินค้าต้องใหญ่และเน้นสีที่โดดเด่น
ทำภาพสินค้าให้ใหญ่และสามารถเห็นรายละเอียดของสินค้าให้ชัดเจนแต่อย่านำสินค้าทุกตัวมาทำให้ใหญ่ทั้งหมดเลือกเฉพาะสินค้าที่เราต้องการให้เด่นหรือสินค้าที่เป็นไฮไลท์ของเราก็พอและเลือกใช้สีที่ดูเด่นๆเมื่อนำสินค้าของเราไปวางแล้วสีเหล่านั้นจะสามารถช่วยส่งเสริมให้สินค้าของเราดูโดดเด้งออกมากได้ดังตัวอย่างของเว็บไซต์ http://special.bose.eu/en/
2. เรียบง่าย
สินค้าที่มีความทันสมัยและต้องการความเนี๊ยบอย่างมากการ ออกแบบเว็บไซต์ สไตล์ Minimal ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ดี เพราะการใช้ตัวอักษรที่สะอาดดูดีบวกกับภาพสินค้าขนาดใหญ่จะทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจในสินค้ามากกว่าเดิม
3. แนะนำสินค้าของคุณให้ครบถ้วน
ในการตัดสินใจซื้อสินค้าอะไรสักอย่างลูกค้านั้นลูกค้าจะชอบการเลือกร้านค้าที่สามารถดูสินค้าจากมุมอื่นๆที่แตกต่างกันได้ เช่น รายละเอียดของสินค้าเป็นแบบไหนทำมากจากอะไร หรือถ้ามองในมุมซ้ายเป็นแบบไหน เพราะในบางครั้งรูปภาพสินค้าที่เราถ่ายลงไปในเว็บนั้นอาจจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า
4. ใช้ตัวอักษรบนเว็บไซต์ให้มีเอกลักษณ์
สินค้าหลายๆชนิดอาจจะซ้ำกันแต่เราสามารถสร้างภาพลักษณ์ของร้านค้า(เว็บ)ของเราให้มีสไตล์ที่แตกต่างได้ เพียงแค่เลือกใช้ฟ้อนต์ในการออกแบบเว็บไซต์ให้มีเอกลักษณ์และมีความเชื่อมโยงกับสินค้าของคุณ หรือจะออกแบบโลโก้ให้มีสไตล์เน้นการใช้สีสันที้เป็นเอกลักษณ์บ่อยๆเพื่อให้ลูกค้าสามารถจดจำได้เราได้
5. ออกแบบเว็บไซต์ ให้ง่ายต่อการค้นหา
เว็บไซต์ E-commerce ที่ดีนั้นควรจะต้องหาสินค้าได้โดยเร็ว ไม่ใช่ให้ลูกค้าเข้ามานั่งหาสินค้าที่ต้องการนานๆเพราะอาจจะทำให้ลูกค้ารู้สึกเบื่อที่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ช่องค้นหาควรต้องใหญ่และเน้นให้เห็นได้โดยง่ายเพราะกว่า 70% ของคนที่เข้าเว็บซื้อสินค้ามักจะมองหาช้องค้นหาก่อนเป็นอันดับแรก
6. ใช้วีดีโอแนะนำสินค้าแทนแบนเนอร์รูปภาพ
การออกแบบเว็บไซต์ ให้มีแบนเนอร์ใหญ่ๆนั้นเป้นสิ่งที่เห็นกันได้เกือบทุกเว็บไซต์แต่การใช้วีดีโอแนะนำสินค้าแทนรูปภาพปกติที่อยู่บนแบนเนอร์นั้นจะสามารถให้ข้อมูลสินค้าให้กับลูกค้าได้ครบถ้วนมากและรวดเร็วมากกว่าการอ่านข้อมูลที่ยาวจนเห็นแล้วปวดหัวเพราะวีดีโอที่ถูกนำมาแสดงนั้นได้ถูกย่อยข้อมูลให้ง่ายต่อการรับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
7. กดสั่งซื้อแล้วไม่เด้งไปที่หน้าอื่น
ลูกค้าที่เข้ามาซื้อของภายในเว็บนั้นหลายคนไม่ได้มาซื้อเพียงแค่อย่างเดียว เพราะงั้นเราไม่ควรออกแบบเว็บไซต์ให้เมื่อกดสั่งซื้อแล้วเด้งไปที่หน้าจ่ายเงินหรือหน้าตะกร้าสินค้า แต่ควรจะเพิ่มเป็น pop up ขึ้นมาแทนว่าเราได้ทำการสั่งซื้อสินค้าชนิดนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อประหยัดเวลาของลูกค้าและทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกหงุดหงิดกับการใช้เว็บไซต์
8. แบนเนอร์ต้องเลื่อนเปลี่ยนสินค้าได้
แบนเนอร์ด้านบนสุดหรือเรียกง่ายๆว่าฮีโร่แบนเนอร์นั้นเป็นจุดไฮไลท์อีกหนึ่งจุดของการออกแบบเว็บไซต์เลยก็ว่าได้ แบนเนอร์จุดนี้ควรทำให้สามารถเลื่อนเปลี่ยนสินค้าได้เพราะลูกค้าส่วนมากจะเข้าใจว่าแบนเนอร์ในจุดนี้จะมีสินค้าใหม่หรือสินค้าโปรโมชั่นมาให้ได้ดูอยู่ตลอดเวลา
9. ใช้สีของสินค้ามา ออกแบบเว็บไซต์
สินค้าของเราจะมีสีที่เป็นเอกลักษณ์อยู่แล้ว ลองหยิบยกสีหลักขึ้นมาและรองนำมาใช้ ออกแบบเว็บไซต์ เพื่อให้เว็บไซต์ของเรานั้นมีสีที่ต้องกับสินค้าและจะสามารถทำให้ลูกค้าสามารถจดจำลักษณะสีของสินค้าและเว็บไซต์เราได้
10. ดูสินค้าได้ 360 องศา
เป็นอีกเทคนิคในการ ออกแบบเว็บไซต์ ที่ค่อนข้างนิยมทำกันมากขึ้นในปัจจุบันเพราะจะทำให้ลูกค้าสามารถพลิกดูสินค้าได้ทันใจและดูรายละเอียดได้ทุกซองทุกมุมเรียกได้ว่า ถ้ามุมไหนไม่โดนใจก็บ่นกันตรงนั้นได้เลยเชียว และจะยิ่งดีเข้าไปใหญ่ถ้าสินค้านั้นสามารถเลือกสีแล้วเปลี่ยนได้ตอนนั้นเลย
Credit : designschool.canva.com