เมื่อลูกค้ามีความต้องการที่แตกต่างกัน Personalization Marketing หรือการตลาดแบบเฉพาะบุคคล คือกลยุทธ์ที่ใช้ข้อมูล (Data) และเทคโนโลยีในการปรับแต่งการสื่อสารและประสบการณ์การตลาดให้ตรงกับความสนใจและพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละคน เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วม ความผูกพัน และการขายให้กับแบรนด์
โดยเฉลี่ยแล้วลูกค้าจะเห็นโฆษณามากกว่า 1,700 โฆษณาต่อเดือน สิ่งที่เราควรทำไม่ใช่ทำให้ลูกค้ามองเห็นโฆษณามากขึ้นแต่ควรจะส่งข้อมูลที่ลูกค้าต้องการได้ตรงใจมากขึ้น ข้อมูลจาก Adobe
จึงเป็นเทรนด์การตลาดที่ได้รับความนิยม เพราะการทำการตลาดที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดนั้นคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
Personalization Marketing คืออะไร
Personalization Marketing คือกลยุทธ์การตลาดที่เน้นการปรับแต่งข้อความและประสบการณ์การสื่อสารกับลูกค้าแต่ละคนให้ตรงกับความสนใจและพฤติกรรมของพวกเขา โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับลูกค้า การตลาดแบบเฉพาะบุคคลช่วยให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์และเหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคลได้แม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งมักจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของการขาย
การตลาดแบบ Personalization Marketing หรือที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า การตลาดแบบหนึ่งต่อหนึ่ง (One-to-One Marketing) มุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลของแต่ละลูกค้าเพื่อสร้างสื่อสารที่ตรงกับความชื่นชอบและเวลาที่เหมาะสมที่สุด โดยต่างจากการตลาดทั่วไปที่มักใช้ข้อความหรือโฆษณาเดียวกันส่งถึงผู้คนจำนวนมาก การตลาดแบบนี้จะเน้นการเข้าถึงแต่ละบุคคลอย่างเจาะจง ช่วยให้แบรนด์สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำและส่วนตัวยิ่งขึ้น
การตลาดแบบเฉพาะบุคคลมักจะใช้ข้อมูลจากหลายแหล่ง เช่น ข้อมูลประวัติการซื้อ การเยี่ยมชมเว็บไซต์ การตอบสนองต่อแคมเปญการตลาด และข้อมูลพฤติกรรมผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกวิเคราะห์และนำมาใช้เพื่อสร้างข้อเสนอและสื่อสารที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคลได้อย่างเฉพาะเจาะจง
ทำไมการตลาดแบบ Personalization Marketing จึงได้รับความนิยม
การตลาดแบบเฉพาะบุคคลหรือ Personalization Marketing ได้รับความนิยมมากขึ้นในยุคดิจิทัลเนื่องจากความสามารถในการเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างรวดเร็วและง่ายดายของเครื่องมือที่มีให้นักการตลาดใช้งาน ซึ่งต่างจากในอดีตที่ทีมการตลาดอาจต้องใช้เวลามากในการติดต่อหรือเดินเข้าหาลูกค้าทีละคน ปัจจุบันเพียงแค่ใช้เครื่อง MarTech ข้อมูลลูกค้าก็สามารถถูกรวบรวมได้อย่างครบถ้วนและเร็วขึ้น
การใช้ข้อมูลนี้ช่วยให้สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้ละเอียดยิ่งขึ้น ทำให้การนำเสนอสินค้าและบริการสามารถปรับให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้อย่างแม่นยำ สร้างประสบการณ์ลูกค้าที่เป็นส่วนตัวและน่าประทับใจ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความภักดีต่อแบรนด์ได้ การตลาดแบบเฉพาะบุคคล Personalization Marketing คือนกลยุทธ์ที่ธุรกิจขนาดเล็กไม่ควรมองข้าม เนื่องจากสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้อย่างมาก
ใช้ Big Data เพื่อสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ไม่เหมือนใคร
กลยุทธ์ที่ใช้ Big Data ในการวิเคราะห์พฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าอย่างละเอียด เพื่อคาดการณ์พฤติกรรมการซื้อในอนาคต ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์นี้ไม่เพียงแต่ชี้ไปที่สิ่งที่ลูกค้าจะซื้อในครั้งถัดไป เวลาที่จะซื้อ แต่ยังรวมถึงโปรโมชั่นหรือโฆษณาที่จะกระตุ้นให้ลูกค้ามีความสนใจด้วย
การใช้ Big Data ทำให้เราเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น กว่าการทำ Personalization Marketing ซึ่งใช้ข้อมูลจากลูกค้าโดยตรงเพียงอย่างเดียว และช่วยเพิ่มระดับของการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าไปอีกขั้น ตัวอย่างเช่น หากเรามีข้อมูล Data ที่มากพอจะทำให้การทำแคมเปญ Facebook Ads แสดงโฆษณาที่แตกต่างกันให้กับแต่ละผู้ใช้งานที่เรามีข้อมูลได้
เริ่มทำ Personalization Marketing อย่างไรดี
เราสามารถเริ่มต้นทำ Personalization Marketing ได้โดยเริ่มต้นจากการใช้เครื่องมือ MarTech ในการเก็บข้อมูล คุณอาจจะเริ่มต้นจากการมีเว็บไซต์และสร้าง Traffic ให้กับเว็บไซต์และลองมองว่าผู้ใช้งานที่เข้ามายังเว็บไซต์ของคุณเข้ามาใช้งานยังหน้าเว็บไซต์หน้าไหนบ้าง เช่น
ผู้ใช้งานเข้ามายังหน้าเว็บไซต์ A = คุณก็สามารถสร้างแคมเปญ Facebook Ads เพื่อยิงโฆษณาในเรื่องเกี่ยวกับบริการ A
ผู้ใช้งานเข้ามายังหน้าเว็บไซต์ B = คุณก็สามารถสร้างแคมเปญ Facebook Ads เพื่อยิงโฆษณาในเรื่องเกี่ยวกับบริการ B
จากตัวอย่างข้างต้นคุณจะพบว่าผู้ใช้งานทั้ง 2 คนจะเห็นโฆษณา Facebook Ads ที่ไม่เหมือนกัน
หลังจากที่คุณรวบรวมข้อมูลลูกค้าแล้ว ควรจะจัดทำ Persona ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละบุคคล โดยระบุรายละเอียดที่ครอบคลุมความคิด, ความชอบ, พฤติกรรมการซื้อ, และแรงกระตุ้นที่ลูกค้าต้องการ เพื่อใช้ในการสร้างการตลาดที่มีประสิทธิภาพ การจัดทำ Persona อาจต้องใช้ข้อมูลมากและลงรายละเอียดมากขึ้น แต่สามารถสร้างประสบการณ์ที่ตรงใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น การมีเครื่องมือที่ดีช่วยในการจัดการข้อมูลและสร้างระบบการตลาดแบบอัตโนมัติจะทำให้กระบวนการนี้ง่ายขึ้นไปอีก
สรุป
การทำการตลาดแบบ Personalization Marketing เป็นการตลาดที่ส่งข้อมูลที่ลูกค้าต้องการไปยังบุคคลนั้น ไม่ใช่การหว่านข้อมูลแบบกลาง ๆ ไปยังลูกค้าจำนวนมาก การที่คุณจะส่งข้อมูลแบบเฉพาะไปยังลูกค้าได้นั้นคุณจะต้องมี Data ของลูกค้าเสียก่อนซึ่งการได้มาซึ่ง Data จะต้องใช้งานเครื่องมือ MarTech ในการเก็บข้อมูล หลังจากที่ธุรกิจของคุณมีข้อมูลที่มากเพียงพอคุณจะสามารถสร้างแคมเปญโฆษณาที่มีความเฉพาะเจาะจงไปหาลูกค้าได้
ถ้าคุณต้องการทำเว็บไซต์เพื่อทำการตลาดแบบ Personalization Marketing ลองพูดคุยกับเราได้ทันที เรามีความเชี่ยวชาญในการทำเว็บไซต์ การติดตั้งเครื่องมือ MarTech ไปจนถึงการสร้างแคมเปญการตลาดที่เหมาะสมกับลูกค้า