5 เทรนด์เว็บไซต์ 2022 ใครจะทำเว็บไซต์ใหม่ต้องอ่าน “Website Trend 2022”

Update

ในทุกปีเราจะพบว่าขั้นตอนการทำเว็บไซต์จะต้องใส่ใจรายละเอียดมากขึ้นเพราะพฤติกรรมของผู้ใช้งานนั้นจะเปลี่ยนไปตามเทรนด์ใน ณ เวลานั้น จึงทำให้บริษัทหรือองค์กรที่ต้องการจะทำเว็บไซต์ใหม่ต้องคอยเรียนรู้เรื่อง เทรนด์เว็บไซต์ อยู่ตลอดเวลา วันนี้เราจะมาแนะนำ Website trend 2022 : 5 เทรนด์เว็บไซต์ 2022 ใครจะทำเว็บไซต์ใหม่ต้องอ่าน มาศึกษากันว่าถ้าต้องการทำเว็บไซต์ใหม่ในปีหน้า คุณควรจะใส่ใจกับเรื่องอะไรบนเว็บไซต์ของคุณบ้าง

5 เทรนด์เว็บไซต์ 2022 มีอะไรบ้างไปดูพร้อมกัน

1. Website Load Time and Page Speed

Website Load Time and Page Speed

หนึ่งสิ่งที่ Google เน้นย้ำมาตลอดในการให้คะแนนเว็บไซต์ของคุณว่า “ดี” หรือ “แย่” คือ Page Speed ของเว็บไซต์ว่าเร็วขนาดไหน คุณสามารถทดสอบความเร็วเว็บไซต์ของคุณได้ที่ : pagespeed.web.dev ไม่ว่าเว็บไซต์ที่คุณกำลังทดสอบจะได้คะแนนอยู่ที่เท่าไหร่ แต่ในการทำเว็บไซต์ใหม่ควรจะได้คะแนนอยู่ที่ประมาณ 80 ขึ้นไป ถ้าคุณทำได้ Google จะรักเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น เพราะ Google จะมองว่าเว็บไซต์ของคุณนั้นแสดงผลได้เร็วตามมาตรฐานที่ Google ชื่นชอบ’

แล้วทำอย่างไรให้ได้ Page Speed ที่ดี เป็นคำถามที่ตามมาเพราะทุกคนก็อยากให้เว็บไซต์ของเราเร็วเหมือนกัน

  • โครงสร้างของเว็บไซต์ที่ถูกออกมาแบบต้องตอบโจทย์
  • ขั้นตอนในการพัฒนา การเลือกใช้ภาษาในการเขียนที่เร็ว
  • การ Optimization เว็บไซต์เช่น รูปภาพ ฟ้อนต์ ให้เหมาะสม
  • เลือก Server ที่ดีและ Optimization มันให้ดี

จะเห็นได้ว่าขั้นตอนที่ยกตัวอย่างมาในการทำเว็บไซต์ให้ Page Speed เร็วจะต้องใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนในการออกแบบไปจนถึงขั้นตอนสุดท้ายอย่างการนำเว็บไซต์ขึ้นสู่ Server จริง

2. Micro Interactions & Animation

Micro Interactions & Animation

เพราะเว็บไซต์ที่สามารถตอบโต้ผู้ใช้งานหรือมีลูกเล่นเล็กน้อยช่วยเพิ่มความน่าสนใจในการใช้งานเว็บไซต์ ผู้ใช้งานหลายคนคงเบื่อแล้วกับเว็บไซต์ที่ดูนิ่งๆ แสดงผลเพียงข้อมูลออกมา แต่ใน Website trend 2022 จะดีขนาดไหนถ้าเว็บไซต์ที่เรากำลังเข้ามี Animation เล็กน้อยให้ดูน่าดึงดูดสายตา หรือมี Interactions บ้างในบางจุดเวลาเรานำเม้าส์ไปชี้ให้พอมีลูกเล่น ในสมัยก่อนการที่เว็บไซต์มี Micro Interactions และ Animation เยอะจะส่งผลต่อ Page Speed ที่ลดลง แต่ในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาไป ด้วยภาษาในการพัฒนาที่มีตัวเลือกมากขึ้นทำให้การใส่ Animation ลงไปในจำนวนที่พอเหมาะจะไม่ส่งผลต่อ Page Speed มากนัก

สำหรับใครที่ต้องการทำให้เว็บไซต์มีลูกเล่นส่วนสำคัญที่เราจะต้องใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนในการออกแบบคือการวางจุดที่ต้องการให้มี Micro Interactions และ Animation แค่พอเหมาะเช่น ใส่ Interactions เอาไว้ที่ปุ่มกด อันนี้ถือเป็นวิธีมาตรฐานที่เราจะพบเจอกันได้อยู่ตลอด หรือการใส่ Interactions ที่รูปภาพให้มีลูกเล่นเล็กน้อยก็ยังสามารถทำได้โดยที่เว็บไซต์ยังแสดงผลได้รวดเร็ว

3. Thumb-Friendly Mobile Navigation

Thumb-Friendly Mobile Navigation

ในทุกปีผู้ใช้งานเว็บไซต์ผ่านโทรศัพท์มือถือมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันนี้เว็บไซต์ส่วนใหญ่รองรับการแสดงผลแบบ Responsive กันหมดแล้ว ปัจจุบันในการทำเว็บไซต์เราไม่จำเป็นต้องถามกันแล้วว่าเว็บไซต์รองรับการแสดงผลในมือถือไหม เพราะมันเป็นเหมือนข้อบังคับไปแล้วว่าทุกเว็บไซต์จะต้องแสดงผลได้ เพราะนอกจากจะรองรับการใช้งานของผู้ใช้อีกจุดคือ Google จะตัดคะแนนเว็บไซต์ที่ไม่สามารถแสดงผลบนมือถือได้เป็นเว็บไซต์ที่ไม่ดี

ในปี 2022 เว็บไซต์ที่แสดงผล Responsive ได้นั้นอาจไม่พอเพราะ Google รวมไปถึงผู้ใช้งานส่วนใหญ่มองลึกไปว่าเว็บไซต์จะต้องมี UX (User Experience) ที่ดีด้วยจึงเป็นที่มาของ Thumb-Friendly Mobile Navigation เมื่อเราใช้เวลาส่วนใหญ่กับหน้าจอขนาดเล็กอย่างโทรศัพท์มือถือ แต่หน้าจอขนาดเล็กที่ว่าก็มีขีดจำกัดเพราะเรามักจะใช้งานด้วยมือเพียงข้างเดียวทำให้มีพื้นที่ที่นิ้วมือจะกดได้ง่ายหรือยากต่างกันไป

การทำเว็บไซต์ให้รองรับ Thumb-Friendly Mobile Navigation จึงเป็นเหมือน Website trend 2022 เพราะนอกจากเว็บไซต์จะแสดงผลบนมือถือได้ดีแล้ว ยังต้องใช้งานได้ง่ายโดยใช้เพียงนิ้วเดียวได้ด้วย ซึ่งเราจะแบ่งพื้นที่ของหน้าจอออกเป็นส่วนๆ แบ่งความ ง่าย ปานกลาง และยาก พื้นที่สีเขียวหมายถึงพื้นที่ที่นิ้วมือเราขยับไปใช้งานได้ง่าย สีเหลืองหมายถึงสามารถใช้งานได้แต่มีความยากมากขึ้น ส่วนสีแดงจะเป็นพื้นที่ที่นิ้วมือขยับไปได้ยากลำบากหรือถึงต้องมีนิ้วอื่นเข้ามาช่วยกด

ในขั้นตอนการออกแบบเว็บไซต์ให้มี UX (User Experience) ที่ดีจึงต้องโฟกัสกับตำแหน่งในการวางขององค์ประกอบต่างๆ เช่น ขนาดของปุ่มกดที่ต้องรองรับการใช้งานไม่ว่าคุณจะถืออุปกรณ์ต้องมือกี่ข้าง อย่าลืมว่าทุกวันนี้เราใช้งานโทรศัพท์มือถือในทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นบนรถไฟฟ้า ที่ทำงาน หรือแม้แต่ตอนกำลังเดิน

4. Text & Hero Images

Text & Hero Images

หนึ่งในเทรนด์ที่มีมาสักระยะและ Website trend 2022 ก็คงยังมีต่อไปกับการใช้ภาพและข้อความมาเป็นองค์ประกอบหลักบนเว็บไซต์ ถ้าเราอยากทำเว็บไซต์ให้ออกมาสวย หนึ่งสิ่งที่เราต้องโฟกัสคือรูปภาพบนเว็บไซต์นั้นควรจะสวย มีคุณภาพที่ดี การใช้รูปภาพสวยๆ มาผสานกับข้อความจึงเป็นเทรนด์ที่เรานิยมนำมาใช้บนเว็บไซต์ ในยุคก่อนๆ การจะมีรูปภาพที่สวยงามคุณภาพดีมากใช้งานบนเว็บไซต์จะใช้งบประมาณที่สูง ต้องมีการถ่ายรูปกันใหม่ แต่ในยุคนี้เรามี Stock photo ให้เลือกใช้งานมากมาย ลดค่าใช้จ่ายในการถ่ายรูปลงได้เยอะ จะมีเพียงรูปภาพบางประเภทที่ไม่มีขายใน stock photo เช่น ภาพสถานที่ สินค้า พนักงาน 

การใช้ Text & Hero Images นั้นจะตามมาด้วยเทคนิค Optimization ตัวรูปภาพให้เล็ก ดาวน์โหลดได้รวดเร็ว เพื่อให้เว็บไซต์ของเราไม่หนักจนเกินไป เพราะถ้าเว็บเราเปิดใช้งานได้ช้าเมื่อไหร่ Google ก็จะมองว่าเว็บไซต์ของเรานั้นไม่ดี ก็จะมีผลเสียตามมาอีกหลายข้อ

5. Data Visualization

Data Visualization

หมดยุคแล้วกับการทำเว็บไซต์แสดงผลข้อมูลแบบน่าเบื่อ เทรนด์ในการทำ Data Visualization จึงเป็นตัวช่วยให้ผู้ใช้งานดูข้อมูลอันซับซ้อนได้ง่ายมากยิ่งขึ้น บางครั้งในการทำ Data Visualization เรานำมาปรับใช้กับข้อมูลอื่นที่ไม่ใช่ตัวเลขเยอะๆ แต่อาจจะเป็นการนำข้อมูลที่ยาว หรือยากต่อการเข้าใจนำมาปรับให้เป็น Data Visualization เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าใจชุดข้อมูลได้ง่ายมากยิ่งขึ้น