Conversion rate คืออะไร
Conversion rate คือตัวเลขที่นักการตลาดหลายคนให้ความสำคัญ เพราะตัวเลขตัวนี้มันกำหนดยอดขายให้กับสินค้าหรือบริการของเราได้ Conversion rate จึงเป็นตัวเลขที่บอกว่าผู้ใช้งานมีการกระทำหรือมีกิจกรรมอะไรบางอย่างบนเว็บไซต์ของเราหรือไม่ สำหรับกิจกรรมนั้นอาจจะเป็น คลิกปุ่มติดต่อเรา หยิบสินค้าใส่ตระกร้า คลิกดูวีดีโอ ลงทะเบียนรับจดความข่าว ไปจนถึงการดาวน์โหลดไฟล์ ซึ่งเราสามารถกดหนดเป้าหมายของลูกค้าได้เองตามจุดประสงค์ของหน้าเว็บไซต์ที่เราทำขึ้นมา
แล้ว Conversion rate ต่างกับตัวเลขอย่างผู้เข้าชมอย่างไร ต้องบอกก่อนว่าการจัดสถิติตัวเลขผู้เข้าชมนั้นอาจจะไม่ตอบโจทย์บางกรณีเช่น เป้าหมายของเว็บไซต์ที่เราทำขึ้นมาคือการส่งข้อมูลติดต่อเรา การที่มีผู้ชมจำนวน 100 คน ไม่ได้แปลว่าจะมีคนทำกิจกรรมที่เรากดหนด (การส่งข้อมูลติดต่อเรา) มาทั้งหมด 100 คน ทำให้วิธีการวัดผลที่จำนวนผู้เข้าชมไม่สามารถนำมาใช้งานได้ เราจึงต้องวัดผลแบบเจาะลึกมากขึ้นโดยการวัดผลที่ Conversion rate แทน เพื่อให้เราแก้ไข ปรับแต่งหน้าเว็บไซต์รวมไปถึงโฆษณาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
วิธีคิดตัวเลข Conversion Rate
สูตรในการหา Conversion Rate แบบง่ายๆ คือ นำตัวเลขจำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด (Total visitors) มาหารด้วยตัวเลขกิจกรรมที่เกิดขึ้นบนหน้าเว็บไซต์ที่เราตั้งไว้ (Total Conversions) ยกตัวอย่างเช่น มีผู้เข้าชมหน้าเว็บไซต์ของเราจำนวน 100 ครั้ง และมีกิจกรรมที่เกิดขึ้นจำนวน 10 ครั้ง เท่ากับมี Conversion rate คือ 10% นั่นเอง
เมื่อเราเห็นอย่างนี้เราจะรู้ได้ทันทีวันตัวเลข Conversion Rate คือตัวเลขที่สำคัญเป็นอย่างมากในการทำแคมเปญโฆษณา เพราะจะเป็นตัววัดผลได้ทันทีว่าแคมเปญโฆษณาที่เราทำนั่นส่งผลดีต่อสินค้าและบริการมากแค่ไหน ถ้า Conversion Rate ของคุณมีตัวเลขที่ต่ำเกินไปแสดงว่าแคมเปญที่ตั้งไว้อาจจะไม่คุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายก็เป็นได้
สำหรับตัวเลขของ Conversion Rate เท่าไหร่ที่เหมาะสม อันนี้จะขึ้นอยู่กับรูปแบบของสินค้าและบริการของเราด้วย ถ้าสินค้ามีราคาสูงต้องใช้เวลาในการตัดสินใจที่นานอาจทำให้ตัวเลข Conversion Rate ที่นำมาวัดผลเป็นตัวเลขที่น้อยลงได้
เราจะวัดค่า Conversion Rate ไปทำไม
เป้าหมายในการวัดค่า Conversion Rate นั่นไม่มีอะไรซับซ้อน เป้าหมายคือการทำอย่างไรให้คุณได้ลูกค้าที่มากขึ้น ทำอย่างไรให้แคมเปญโฆษณานั้นดีขึ้น ทำอย่างไรให้ใช้งบประมาณที่น้อยลงแต่ได้ลูกค้าที่มากขึ้น เป้าหมายที่ยกตัวอย่างมานั้นคุณจะไม่สามารถรู้ได้ว่าหน้าเว็บไซต์นั้นทำงานได้ดีหรือไม่ ถ้าคุณไม่ทำการวัดผลที่ถูกจุด
ปรับเปลี่ยนโฆษณาได้ตรงจุด
จะรู้ได้อย่างไรว่าโฆษณาที่สร้างขึ้นดีหรือไม่ ด้วยตัวเลขคลิกโฆษณาหรือตัวเลขผู้เข้าชมเว็บไซต์ไม่สามารถตอบได้ว่าจำนวนคนคลิกทั้งหมดแปลเปลี่ยนเป็นลูกค้าของคุณได้เท่าไหร่
คนเข้าเยอะแต่ยอดขายน้อย = โฆษณานั้นไม่ดี
คนเข้าเยอะและมีตัวเลข Conversion Rate ที่เยอะ = โฆษณานั้นยอดเยี่ยม
เลือก Keyword ในการทำโฆษณาได้แม่นยำมากขึ้น
หลายครั้งที่โฆษณามีคนคลิกเยอะแต่กลับไม่ได้ลูกค้าซึ่งอาจจะมาจากการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ผิดพลาด ไปจนถึงการเลือกคำในการลงโฆษณาที่ผิด เราจึงสามารถทำ A/B Testing ได้โดยการสร้างแคมเปญโฆษณาเพิ่มเพื่อวัดผลประสิทธิภาพของ Keyword ที่เราเลือกใช้
รู้ว่ากลุ่มลูกค้าของคุณต้องการอะไร
อีกจุดหนึ่งในการปิดการขายผ่านเว็บไซต์อาจจะไม่ใช่แค่การสร้างแคมเปญโฆษณา จะดีแค่ไหนถ้าคุณจะวัดผลได้ด้วยว่าหน้าเว็บไซต์ของคุณนั้นตอบโจทย์ลูกค้ามากแค่ไหน การทำ A/B Testing ก็สามารถทำที่หน้าเว็บไซต์เพื่อวัดตัวเลข Conversion Rate ได้ด้วยเช่นเดียวกัน
ทำเว็บไซต์อย่างไรให้ Conversion Rate เพิ่มขึ้น
เมื่อ Conversion Rate คือเป้าหมายของการวัดผล คุณจึงต้องออกแบบหน้าเว็บไซต์ให้เหมาะสมตอบโจทย์ลูกค้าให้ดีด้วย อันดับแรกคุณจะต้องตั้ง Goals หรือเป้าหมายที่ต้องการจากผู้ใช้ง่ายก่อนเช่น การสมัครสมาชิก การสั่งซื้อสินค้า การคลิกปุ่มติดต่อเรา หรือเป้าหมายอะไรบางอย่างที่คุณต้องการ
ออกแบบเว็บไซต์ให้ตรงกับความต้องการ
การออกแบบเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานต้องคำนึงถึงสิ่งที่ลูกค้าของคุณกำลังต้องการ เว็บไซต์ที่ดีจะต้องตอบคำถามที่ลูกค้ามีอยู่ภายในใจได้ เรามีเทคการทำ Landing page พร้อมเคล็ดลับในการสร้างให้มีประสิทธิภาพ ให้คุณได้อ่านเพิ่มเติมถ้าคุณกำลังมองหาวิธีการวางข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์การขาย
วิธีในการทำเว็บไซต์ให้ได้ Conversion Rate เพิ่มขึ้นต้องวางตั้งแต่โครงสร้างของข้อมูล ลูกค้ากำลังต้องการอะไร กำลังมีคำถามอะไร เราจะตอบคำถามของเขาได้ดีมากน้อยแค่ไหน การวางข้อมูลบนเว็บไซต์นั้นสำคัญมาก ข้อมูลทั้งหมดจะต้องไม่สั่นหรือยาวเกินไปจนหาข้อมูลที่สำคัญไม่เจอ
ติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้งาน
ใช้เครื่องมือในการติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้งานมาช่วย เพราะคุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกที่มากขึ้น รู้ทุกพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า คนส่วนใหญ่อ่านข้อมูลตรงไหน คลิกปุ่มไหน ข้อมูลตรงไหนที่คนไม่สนใจ ล้วนเป็นข้อมูลเชิงลึกที่คุณจะนำมาปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้ เราเลือกใช้เครื่องมือเช่น Hotjar เพื่อดู Heatmap สิ่งที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์เพื่อนำมาวิเคราะห์และปรับแต่งเว็บไซต์ให้ถูกต้อง
วางตำแหน่งของ Call to action ให้ถูกจุด
เมื่อการวัด Conversion Rate คือการที่ผู้ใช้งานมีกิจกรรมตามเป้าหมายที่เราวางเอาไว้ การวางปุ่ม Call to action ให้ถูกที่ตามหลักการออกแบบ UX (User Experience Design) ก็ช่วยเพิ่มตัวเลขของ Conversion Rate ให้กับเว็บไซต์ของเราได้
ทำ A/B Testing เพื่อค้นหารูปแบบที่ดีที่สุด
การทำโฆษณายังต้องทำ A/B Testing ในการออกแบบเว็บไซต์ก็เช่นกัน คุณสามารถทำ A/B Testing ให้กับหน้าเว็บไซต์ที่คุณทำการออกแบบมาได้ เราไม่สามารถรู้ได้ว่าวิธีที่เราจัดวางข้อมูลนั้นถูกหรือผิด การทดสอบโดยผู้ใช้งานจริงจึงเป็นตัวเลือกที่ควรทำมากที่สุด
สรุปเทคนิคการเพิ่ม Conversion rate ให้เว็บไซต์
การวัดผลเว็บไซต์ด้วย Conversion rate เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการค้นหากลุ่มลูกค้าและวัดผลการขายที่ได้ผล สำหรับการปิดการขายผ่านทางเว็บไซต์ คุณสามารถนำตัวเลขที่ได้มาเพื่อนำไปปรับแต่ง แก้ไขเว็บไซต์และแคมเปญโฆษณาเพื่อให้ได้ตัวเลข Conversion rate ที่ดีที่สุดได้ ถ้าคุณกำลังมองบริษัทรับทำเว็บไซต์ที่ให้ความสำคัญกับ Conversion rate ติดต่อเราได้เลย