สรุปเนื้อหาสำคัญจาก WordPress Bangkok Meetup
โดยคุณอินทนนท์ ปัญญาโสภา (เบนซ์) Grappik Agency Co-founder
ข้อควรรู้ก่อนอ่าน!
เนื้อหานี้จะพูดถึงภาพรวมของการสร้างเว็บไซต์โดยใช้กลยุทธ์ทั้งด้านข้อมูล การออกแบบ การพัฒนา และการทำให้เว็บไซต์ไปถึงเป้าหมายที่วางไว้
เริ่มสร้างเว็บแบบมีกลยุทธ์
- เว็บไซต์ธุรกิจที่มีกลยุทธ์ไม่เพียงทำให้ธุรกิจมีตัวตนบนโลกออนไลน์ แต่ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพการตลาดและการเข้าถึงลูกค้าได้อย่างทรงพลัง
- เรามี “เว็บไซต์ธุรกิจ” ไปเพื่ออะไร? ลูกค้ามักตอบว่า เพราะเว็บเก่าทำไว้นานแล้ว เว็บเก่าไม่สวยหรือไม่ปลอดภัย ซึ่งคำตอบแบบนี้ไม่ผิดแต่ยังมองไม่ครบทุกมุม
- การสร้างเว็บไซต์เป้าหมายที่แท้จริงคือการเพิ่มช่องทางการหาลูกค้าจากโลกออนไลน์ให้ได้มากขึ้น รวมถึงสามารถวัดผลได้อย่างแม่นยำ เว็บไซต์ที่หาลูกค้าไม่ได้หรือไม่มีคนเข้า คือเว็บไซต์ที่ไม่ได้เกิดประโยชน์กับธุรกิจทั้งในแง่ของธุรกิจและการสร้างภาพลักษณ์
ก่อนสร้างเว็บไซต์ธุรกิจ ต้องรู้จักกับธุรกิจตัวเองก่อน
- ธุรกิจของคุณเป็น B2B หรือ B2C
- B2B (Business-to-Business) มีวงจรการขายที่ยาว การตัดสินใจซื้อต้องผ่านหลายขั้นตอนหลายฝ่าย
- บริบทของเว็บไซต์ธุรกิจ B2B จะเป็นแหล่งสร้างความน่าเชื่อถือ ข้อมูลภายในเว็บไซต์ต้องมีความละเอียด เนื้อหาต้องเจาะลึกเกี่ยวกับบริการหรือผลิตภัณฑ์ เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจของลูกค้า
- B2C (Business-to-Consumer) มีวงจรการขายที่สั้นกว่า การตัดสินใจซื้อมีความรวดเร็ว ขึ้นอยู่กับอารมณ์หรือความต้องการ
- บริบทของเว็บไซต์ธุรกิจ B2C จะเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์และแรงจูงใจในการซื้อ เว็บไซต์ต้องใช้งานง่าย เพื่อให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าหรือเลือกใช้บริการได้อย่างรวดเร็ว แต่ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ก็ต้องคงไว้
- เมื่อรู้จักกับธุรกิจของตัวเองแล้ว ต้องรู้จักกับ Persona ด้วย
- Persona คือโปรไฟล์ตัวแทนลูกค้าที่สร้างขึ้นจากข้อมูลจริง
- การได้มาซึ่ง Persona มาจากการสัมภาษณ์ ใช้การโทรสัมภาษณ์หรือส่งเป็นคำถามสั้น ๆ เพื่อสอบถามก็ได้ ขึ้นอยู่กับคำถาม ถ้าจะถามยาว ๆ ควรโทรพูดคุยเพื่อแนะนำธุรกิจและสร้างความน่าเชื่อถือไปในตัว
- Persona ของเว็บไซต์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท: User Persona และ Buyer Persona
- User Persona เป็นโปรไฟล์ที่แสดงถึงผู้ใช้งานเว็บไซต์ของธุรกิจ (ส่วนมากใช้กับธุรกิจ B2C)
- Buyer Persona เป็นโปรไฟล์ของผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการ ซึ่งอาจจะใช้หรือไม่ใช้เว็บไซต์ของเราก็ได้ (ส่วนมากใช้กับธุรกิจ B2B)
- บางสินค้าหรือบริการ คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ จึงทำให้บางเว็บไซต์มีทั้ง User Persona และ Buyer Persona
- เมื่อได้ Persona แล้ว เราจะรู้ได้ว่าเว็บไซต์หรือสื่อของเราจะเข้าถึงช่วงเวลาใดในชีวิตของลูกค้า
กระบวนการสร้างเว็บไซต์
- กระบวนการสร้างเว็บไซต์ทั่วไปคือ UX/UI Design > Coding > Testing > Launch & Maintenance
- แต่กระบวนการสร้างเว็บไซต์ที่จะทำให้เว็บไซต์ธุรกิจประสบความสำเร็จต้องเพิ่มขั้นตอน Strategy & Planning > UX/UI Design > Coding > Testing > Launch & Maintenance > Content & Marketing
เริ่มทำเว็บไซต์ด้วยกลยุทธ์
- แบ่งกลยุทธ์ออกเป็น 4 หมวดหมู่: Marketing, Design, Content, Performance
- Marketing = SEO, Paid Advertising, Email Marketing, Inbound Marketing
- Design = UX/UI, Mobile First, Trust and Credibility, Accessibility, Visual Hierarchy
- Content = Content Marketing, User-Generated Content, Evergreen Content
- Performance = Page Speed, Core Web Vitals, Security, Analytics & Optimization, Maintenance
เครื่องมือสร้างเว็บไซต์
- เนื่องจากงานนี้เป็น WordPress Bangkok Meetup ก็คงต้องบอกว่า WordPress เหมาะกับการสร้างเว็บไซต์ธุรกิจที่สุด
- ทำไมถึงใช้ WordPress เพราะมี Theme + Plugin พร้อมใช้สร้างเว็บไซต์ได้ทันที มีคนใช้เยอะ = บางปัญหาหรือบาง Solutions มีให้ศึกษา มี Community ถาม-ตอบ ทำ SEO ได้ง่าย ค่าใช้จ่ายไม่สูง
- Plugins สามัญที่ใช้กับ WordPress: Advanced Custom Fields, Rankmath, Kadence Blocks, Seed Social, WP Rocket, Post Types Order, Site Kit by Google, Fluent Forms, All in One WP Migration
- Hosting ที่ใช้กับโปรเจกต์: เว็บไซต์ขนาดใหญ่ใช้ AWS, เว็บไซต์ขนาดกลางใช้ Cloudways, เว็บไซต์ขนาดเล็กใช้ P&T Hosting
- Marketing Tools ที่ใช้ทุกโปรเจกต์: Google Analytics, Google Search Console, Hotjar, DesigilPDPA
- นอกจาก WordPress หากธุรกิจไหนอยากเริ่มทำเว็บไซต์แบบ No-Code/Low-Code แนะนำ WebFlow หรือ Wix
การวัดผลหลังจากสร้างหรือปรับปรุงเว็บไซต์
- วัดผลด้านความเร็วด้วย Page Speed Insight เพราะ Google จะให้คะแนน SEO กับเว็บไซต์ที่มีความเร็วสูง
- ดูผล Core Web Vitals ควรทำให้ผ่านทั้ง Desktop และ Mobile ซึ่งจะมีผลดีกับ SEO
- วัดผลด้านงาน UX/UI ใช้ Hotjar เพื่อติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้ว่าตอบสนองต่อเว็บไซต์ได้ตามเป้าหมายหรือไม่
- วัดผลการเติบโตของผู้ใช้หลังจากทำ Content อย่างต่อเนื่อง ควรมีการเติบโตของผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5-10% ต่อเดือน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจ