Google Font ตัวช่วยสำคัญในการทำเว็บไซต์

Update

Google Font คืออะไร

Google Font คือตัวช่วยในเรื่องฟอนต์ที่ทาง Google จัดทำขึ้นมากับนักออกแบบฟอนต์หลากหลายประเทศ ทำให้ Google Font มีฟอนต์หลายภาษาบนโลกให้เราได้ใช้งานกัน โดยที่ทุกฟอนต์ที่มีให้ใช้นั้นสามารถนำไปใช้งานได้โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายสามารถใช้งานได้ทั้งงานสิ่งพิมพ์และงานดิจิทัลอีกด้วย และที่ Google Font เป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับการทำเว็บไซต์ในปัจจุบันเพราะว่ามี Web Fonts ให้นักพัฒนานำไปใช้งานได้แบบเปิดกว้าง

Web Fonts ที่มีให้ใช้นั้นนักพัฒนาสามารถเขียนโปรแกรมเพื่อดึงเอาฟอนต์ที่ต้องการมาใช้งานบนเว็บไซต์ของเราได้ทันทีโดยที่เราไม่จำเป็นต้องมีฟอนต์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของนักพัฒนาเอง เป็นหนึ่งในวิธีที่สะดวกสบายและนิยมใช้กันเป็นอย่างมาก

ตัวอย่าง Google Font Noto Sans ที่มีหลายภาษาให้ใช้งาน
ตัวอย่าง Google Font Noto Sans ที่มีหลายภาษาให้ใช้งาน

อีกจุดหนึ่งที่มองว่าเป็นจุดเด่นของ Google Font อีกหนึ่งข้อคือมีฟอนต์ที่รองรับทุกภาษาบนโลกอย่าง Noto Sans ที่เชื่อว่าหลายคงเคยผ่านตากันมาบ้าง ด้วยความที่ฟอนต์รองรับหลายภาษาทำให้การออกแบบเว็บไซต์และการพัฒนาเว็บไซต์เป็นไปอย่างง่ายมากยิ่งขึ้น

ข้อดีของ Google Font

มีฟอนต์ให้เลือกหลายรูปแบบ

มีฟ้อนต์ให้เลือกหลายรูปแบบ
มีฟอนต์ให้เลือกหลายรูปแบบ

Google Font ประกอบไปด้วยฟอนต์แทบจะทุกภาษาให้คุณเลือกนำไปใช้งาน สำหรับฟอนต์ภาษาไทยมีให้ใช้งานอยู่ 32 สกุล มีทั้งฟอนต์ที่ดูเป็นทางการ ฟอนต์ที่ดูสนุก ฟอนต์ตัวเขียน ก็มีให้เลือกใช้งานแบบครบถ้วน สำหรับฟอนต์ยอดฮิตที่นิยมใช้งานกันก็จะมีเช่น Kanit Prompt หรือฟอนต์ที่เน้นการอ่านง่ายอย่าง Sarabun ไม่ว่าคุณจะเลือกนำไปใช้งานในรูปแบบไหนก็มีฟอนต์ให้คุณได้ใช้งานในทุกสไตล์ ข้อดีของความหลากหลายอีกหนึ่งจุดคือฟอนต์ภาษาไทยที่กล่าวมาข้างต้นมีให้ใช้งานทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ไม่ต้องยุ่งยากในการหาฟอนต์แต่ละภาษามาใช้งาน

ความหลากหลายนี้เองทำให้ในหลายงานคุณจึงไม่จำเป็นจะต้องซื้อฟอนต์เพื่อนำมาใช้งานบนเว็บไซต์หรือบนงานสิ่งพิมพ์ของคุณ จะจ่ายให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในบางส่วนลดลงไปได้ เช่นฟอนต์บางตัวถ้าจะนำมาใช้งานบนเว็บไซต์ 1 เว็บไซต์จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000 บาทขึ้นไปต่อเว็บไซต์ ไปจนถึงราคาหลักหมื่นบาทต่อเว็บไซต์เลยทีเดียว

รองรับหลายภาษา

รองรับหลายภาษา
รองรับหลายภาษา

ในการออกแบบ User Interface Design ของเว็บไซต์และแอปพลิเคชันเรามักจะพบปัญหาว่าฟอนต์แต่ละตัวจะมีขนาดมาตรฐานที่แตกต่างกัน บางครั้งเราใช้ฟอนต์ภาษาไทยในขนาด 18px สามารถอ่านได้ง่ายกำลังดี แต่พอเราใช้ฟอนต์อีกสกุลที่เป็นอีกภาษาในขนาด 18px เหมือนกันบางครั้งกับพบว่าขนาดนั้นอาจจะใหญ่เกินไปหรือเล็กเกินกว่าที่ควรจะเป็นทำให้นักพัฒนาต้องทำการปรับขนาดของฟอนต์แต่ละสกุลให้มีขนาดที่เหมาะสมกันจึงจะได้ฟอนต์ทั้ง 2 ภาษาที่ลงตัว

เมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้นทำให้เราต้องเสียเวลาในการพัฒนามากขึ้น รวมไปถึงขั้นตอนในการออกแบบก็ใช้เวลานานมากขึ้น ปัญหาทั้งหมดจะไม่เกิดขึ้นถ้าคุณใช้ฟอนต์สกุลเดียวกันแต่คนละภาษากันเช่น Noto Sans ที่เราเคยใช้งานกับเว็บไซต์ CPALL Cambodia ที่เราจะต้องทำการพัฒนาเว็บไซต์ 2 ภาษาคือ ภาษาอังกฤษและภาษากัมพูชา เมื่อเราใช้งานฟอนต์ Noto Sans ที่มีรองรับหลายภาษาทำให้ในการออกแบบและพัฒนาทีมงานไม่จำเป็นจะต้องปรับขนาดฟอนต์ของแต่ละสกุลเข้าหากัน เนื่องจากฟอนต์ทั้งหมดมีขนาดที่เท่ากันหมดนั่นเอง ถือว่าเป็นจุดเด่นที่ฟอนต์อื่นจะทำได้ยาก

มี API ให้นักพัฒนานำไปใช้

มี API ให้นักพัฒนานำไปใช้
มี API ให้นักพัฒนานำไปใช้

ด้วยความที่ Google Font รองรับการแสดงผลบนเว็บไซต์ได้เป็ยอย่างดี พร้อมทั้งมี API ให้นักพัฒนานำไปใช้งานได้อย่างสะดวก ไม่ต้องทำการติดตั้งฟอนต์หรือดาวน์โหลดอะไรมาใช้งานเลย เพียงเขียนโปรแกรมดึงนำเอา API มาแสดงผลบนเว็บไซต์ของเรา คุณก็จะมีฟอนต์สวยๆ เอาไว้ใช้งานแบบง่ายๆ และที่สำคัญยังสามารถแสดงผลได้รวดเร็วและไม่ค่อยพบข้อผิดพลาดในการแสดงผลอีกด้วย

ไม่มีค่าใช้จ่าย

ไม่มีค่าใช้จ่าย
ไม่มีค่าใช้จ่าย

ย้ำอีกครั้งว่า Google Font นั้นสามารถใช้งานได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย คุณสามารถเลือกใช้งานฟอนต์ไหนก็ได้มาใช้งานได้ทันที ถึงแม้จะมีฟอนต์ให้เลือกจำกัดในบางภาษาแต่ด้วยเหตุผลที่ไม่มีค่าใช้จ่ายแต่มีฟอนต์คุณภาพดีให้ได้ใช้งาน ฟอนต์บางสกุลคุณอาจจะมีค่าใช้จ่าย 5,000 บาท/เว็บไซต์ หรือถึงขั้นหลายหมื่นบาท/เว็บไซต์ เลยทีเดียว ถ้าคุณกำลังทำเว็บไซต์และไม่ได้เตรียมงบประมาณสำหรับเรื่องฟอนต์เอาไว้มากนัก Google Font ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีมากๆ สำหรับบริษัทและองค์กรที่ต้องการสร้างเว็บไซต์เป็นของตัวเอง

วิธีใช้งาน Google Font บนเครื่องของเรา

เลือก Google Font ที่เราต้องการ

ขั้นตอนที่ 1 อันดับแรกให้คุณไปที่ fonts.google.com เพื่อเลือกฟอนต์ที่เราต้องการ โดยจะมีภาษาให้คุณได้เลือก หรือจะค้นหาตามชื่อฟอนต์ที่คุณต้องการก็ได้ นอกจากนั้นยังสามารถพิมพ์ข้อความทดสอบลงไปได้ทันทีในกรณีที่คุณอยากทราบว่าข้อความที่คุณจะนำไปใช้งานจะแสดงผลออกมาประมาณไหน ถ้าถูกใจฟอนต์ตัวไหนก็กดเข้าไปดูรายละเอียดได้ทันที

เลือก Google Fonts ที่คุณต้องการ
เลือก Google Fonts ที่คุณต้องการ

ขั้นตอนที่ 2 เมื่อกดเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมของฟอนต์แล้วจะพบว่ามีการแสดงผลให้ดูว่าฟอนต์ที่คุณได้เลือกมานั้นมีรูปแบบหรือน้ำหนักอะไรให้เลือกใช้งานบ้าง ตรงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญในการเลือกนำไปใช้งาน เพราะฟอนต์ที่มีน้ำหนักให้เลือกเยอะหมายความว่าในขั้นตอนการออกแบบผู้ออกแบบก็สามารถใช้งานฟอนต์ในน้ำหนักต่างๆ ตามความเหมาะสมได้ทันที ถ้าฟอนต์ไหนมีน้ำหนักเดียวเช่น ตัวหนา ในการออกแบบเว็บไซต์จะถือว่าใช้งานได้ยากเนื่องจาก ฟอนต์หัวข้อกับฟอนต์อ่านก็ไม่ควรจะน้ำหนักเดียวกัน

หลักจากที่ดูรายละเอียดของฟอนต์จนครบถ้วนคุณสามารถกด Download family เพื่อดาวน์โหลดฟอนต์ที่ต้องการได้ทันที