สวัสดีครับ วันนี้เราจะมาแนะนำเรื่องราวเกี่ยวกับ Moodboard ว่ามันคืออะไร ทำไมถึงมีความสำคัญในงานออกแบบ ถ้าคุณเห็นงานออกแบบรอบตัวเรา ทั้งเว็บไซต์ บรรจุภัณฑ์ หนังสือ หรือป้ายโฆษณาต่างๆ
ประโยชน์ของ Moodboard
1. Moodboard จะเป็นตัวรวบรวมความคิด
และแรงบันดาลใจก่อนที่จะเริ่มต้นลงมือทำงาน ซึ่งมันจะประหยัดเวลา โดยเฉพาะเวลาที่คิดอะไรไม่ออก มองเพียงหน้าจออันว่างปล่าว
2. ช่วยในการนำเสนอ
Moodboard ช่วยในการนำเสนองานให้ลูกค้าดู ช่วยให้ลูกค้าของคุณรับรู้ถึงอารมณ์ของงานและแนวทางที่ควรจะเป็น หลีกเลี่ยงการเข้าใจไม่ตรงกันระหว่างคนทำงานกับลูกค้า บางทีการพยายามอธิบายแนวคิดการออกแบบด้วยคำพูด ลูกค้าอาจจะยังมองไม่ภาพไม่ออกซึ่ง Moodboard จะช่วยคุณได้มาก
เทคนิคการทำ Moodboard
1.ทำด้วยตัวคุณเอง
Moodboard เป็นสิ่งที่ไม่ได้นำไปใช้งานจริงเพียงแค่เอาไว้รวบรวมไอเดีย แรงบันดาลใจ บางทีคุณอาจจะทำงาน Branding หรืออาจจะเป็นเว็บไซต์ ซึ่งองค์ประกอบในงานออกแบบจะไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นองค์ประกอบใน Moodboard ก็จะไม่เหมือนกัน คุณจะต้องใส่องค์ประกอบที่จะใช้ในงานออกแบบของคุณลงไปให้ได้ทั้งหมด เช่น ในการออกแบบเว็บไซต์จะต้องประกอบไปด้วย สี , ตัวอักษร , รูปภาพ เมื่อคุณนำองค์ประกอบทุกส่วนลงไปใน Moodboard เรียบร้อยจะทำให้ลูกค้ามองเห็นภาพรวมของงานได้โดยง่าย
2. ใส่บางอย่างลงไปเพิ่ม
บางที Moodboard อาจจะมีองค์ประกอบของอะไรบางอย่างที่ไม่ได้ใช้ในงานออกแบบของคุณ แต่เพียงมันสามารถสื่ออารมณ์ของงานออกแบบของคุณได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณกำลังจะออกแบบงานเว็บไซต์ที่ดูอบอุ่น คุณก็ลองหาภาพที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างภาพถ่ายในช่วงฤดูร้อน ภาพผู้คนในเทศกาลหน้าร้อน ภาพเบียร์ ซึ่งเมื่อเรามอง Moodboard โดยรวมเราจะรับรู้ถึงความรู้สึกของงานออกมาได้
3. ทำมากกว่าหนึ่ง
หลายครั้งที่เราออกแบบงานแล้วมีแนวคิดอันหลากหลายออกมา เพราะฉะนั่นทำมันออกมาให้หมดก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้งานสำเร็จออกมาได้อย่างดี บางที Moodboard อันหนึ่งอาจจะเหมาะสมกับอีกงานหนึ่ง การทำออกมาหลายอันให้ลูกค้าได้เลือกก็เป็นวิธีที่ดีเยี่ยมอย่างหนึ่ง
4. สร้างจากของจริง
บางที่เราอาจจะได้แรงบันดาลใจจากสิ่งของที่มีอยู่จริง อย่างตัวอย่าง William Yarbrough นักออกแบบคนหนึ่งสนใจงานออกแบบในช่วงยุค 1950 ถึง 60 ซึ่งเป็นยุคทองของการเดินทางทางอากาศ เขาจึงนำป้าย tags ติดกระเป๋าและ postcards ในช่วงเวลานั้นมาใช้ทำ Moodboard โดยได้ทั้งไอเดียตัวอักษรและคู่สีมาใช้งานจริง
5. อย่าจำกัดตัวเราเอง
การจะหาอะไรมาสื่ออารมณ์ของ Moodboard ไม่จำเป็นจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับงานที่เราจะทำ อย่างเช่นนักออกแบบนามว่า Carolyn Farino กำลังออกแบบ UI ของงานงานหนึ่งโดยกำหนดไว้ว่ามันจะต้องดู fresh & light ซึ่ง Carolyn ก็ได้นำแรงบันดาลใจจาก บรรจุภัณฑ์อาหาร , งานศิลปะ ซึ่งเธอบอกว่าเราจะใช้อะไรมาทำ Moodboard ก็ได้ขอแค่ให้มันช่วยสร้างทิศทางของการออกแบบของคุณ ไม่มีอะไรที่เป็นข้อ
6. นำสิ่งที่ออกแบบมาทำ
Moodboard คือสิ่งที่คุณต้องการจะให้มันเป็น หลังจากที่เราผ่านการ brainstorm กันมาแล้ว วิธีหนึ่งที่คุณจะสร้าง Moodboard ขึ้นมาคือการลองนำองค์ประกอบของงานมาใส่ใน Moodboard ซึ่งคุณจะมองเห็นเลยว่าอะไรที่ดูแปลกแยกออกมา อะไรที่ดูไม่เข้ากัน อย่างในตัวอย่างเป็น Moodboard เกี่ยวกับการออกแบบเว็บไซต์ เขาก็ได้นำปุ่มต่างๆ ตัวอักษร รูปแบบข้อมูลต่างๆ มาลง
7. ใส่องค์ประกอบให้ครอบคลุม
วิธีที่ทำให้ Moodboard ของคุณสมบูรณ์แบบก็คือ ใส่องค์ประกอบ ชิ้นส่วนทั้งหมดในงานออกแบบลงไปใน Moodboard เพื่อทำให้ลูกค้าของคุณคิดว่าคุณมีการวางแผนที่ดีต่องานในทุกจุด ถ้าสังเกตุในภาพตัวอย่างจะพบว่าใน Moodboard นี้มีองค์ประกอบของงานทั้งหมดเช่น ตัวอักษร , icon , UI , สี , ภาพ , เมนู และอีกหลายๆ อย่างในงาน เมื่อคุณนำ Moodboard นี้ให้ลูกค้าดู มันก็ง่ายที่จะบอกเล่าถึงวิธีการออกแบบที่เราได้ทำมา
8. ใช้ความคิดให้เยอะๆ
อย่าปิดกันแนวคิดการออกแบบที่มีอยู่ในตัวเรา ลองแสดงมันออกมา บางที Moodboard ก็เป็นตัวช่วยให้งานของเราดูเด่นขึ้นมา อย่างเช่นงานออกแบบโลโก้ดังตัวอย่าง เพียงนำมาประกอบกับภาพถ่ายที่สื่อถึงอารมณ์ที่เราต้องการ หรือใส่ขั้นตอนวิธีการคิดเข้าไปสักนิด ก็จะช่วยเพิ่มมูลค่างานได้อีกมากโข
9. การทดลอง
Moodboard ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่เอาไว้สื่อถึงอารมณ์งาน แต่ก็เป็นเหมือนการทดลองแนวคิดของเรา ลองหยิบนู้น หยิบนี่มาใส่ใน Moodboard มันจะง่ายกว่าการทดลองในงานจริงมาก เพราะเราจะมองเห็นภาพรวมของงานได้อย่างรวดเร็ว
10. เพิ่มคำอธิบาย
ถ้าคุณอยากจะนำ Moodboard ไปให้ลูกค้าดูในรูปแบบเต็ม ก็ควรออกแบบ จัดวางมันให้สวยงาม และสิ่งสำคัญคือคำอธิบายว่าทำไมถึงเลือกใช้อารมณ์งานแบบนี้ ลองเพิ่มประโยคอธิบายสั้นๆ ลงไป จัดวาง Moodboard ให้สวยงาม
11. ผสมผสานไอเดีย
ลองนำไอเดีย ผลงานอื่นที่เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบของคุณมาวางเรียงเพื่อให้เกิดไอเดียใหม่ๆ คุณจะมองได้ทันทีเลยว่า ไอเดียไหนเหมาะสม หรือไอเดียไหนดูไม่เข้ากัน เพื่อให้เจอไอเดียที่คุณกำลังค้นหา
12. เลือกรูปแบบที่ชัดเจน
ลองทำ Moodboard ของคุณให้มีรูปแบบที่ชัดเจนไปเลย เพราะมันจะดูโดดเด่น เข้าใจได้ทันทีเลยว่างานคุณสไตล์ไหน อย่างในตัวอย่างที่เลือกสไตล์งานแบบ flat design
สนใจทำเว็บไซต์และงานออกแบบติดต่อได้ที่นี่ WITHWEE
เรียบเรียงโดย grappik.com
ขอบคุณข้อมูลจาก canva.com